พาณิชย์ติดตามโครงการลดราคาปุ๋ย เผยเกษตรกรlสั่งซื้อแล้ว 1 ล้านกระสอบ
“จุรินทร์” เผยคืบหน้าโครงการลดราคาปุ๋ย ช่วยเกษตรกร ล่าสุด มีการสั่งซื้อไปแล้ว 1 ล้านกระสอบ คงเหลือ 3.5 ล้านกระสอบ เกษตรกรสามารถรวมกลุ่ม แจ้งในนามกลุ่ม เพื่อสั่งซื้อได้ ด้านผู้นำชี้ปุ๋ยแพงตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นทำต้นทุนขนส่งสูง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังประชุมติดตามการดําเนินโครงการลดราคาปุ๋ยเคมีให้แก่สถาบันเกษตรกร ณ สหกรณ์การเกษตรไทรน้อย อ. ไทรน้อย จ. นนทบุรี ผ่านทั้งระบบ Zoom conference กับผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด พาณิชย์จังหวัด เกษตรจังหวัด และสหกรณ์จังหวัดทั่วประเทศ ว่า กระทรวงพาณิชย์ร่วมมือกับกระทรวงเกษตรฯและภาคเอกชนจัดเตรียมปุ๋ยราคาพิเศษไว้ทั้งโครงการประมาณ 4,500,000 กระสอบ มีทั้งสิ้น 84 สูตร และเกษตรกรสามารถแจ้งความจำนงได้ในนามของกลุ่ม กลุ่มเกษตรกร กลุ่มสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชนการเกษตร หรือการรวมกลุ่มกเฉพาะกิจ เพื่อซื้อปุ๋ยตามโครงการนี้ในราคาพิเศษ โดยสั่งจองปุ๋ย 84 สูตรนี้ตามราคาที่กำหนดไม่รวมค่าขนส่งขึ้นอยู่กับระยะทางเพราะเป็นราคาหน้าโรงงาน สามารถแจ้งความจำนงผ่านสหกรณ์จังหวัด สหกรณ์อำเภอหรือที่เกษตรจังหวัด เกษตรอำเภอ และเกษตรตำบล เพื่อขอซื้อปุ๋ยราคาพิเศษได้
"ตั้งแต่เริ่มโครงการมามีเกษตรกรสั่งซื้อมาแล้วประมาณ 1,000,000 กระสอบ ทยอยส่งมอบแล้วขณะนี้เหลือประมาณ 3,500,000 กระสอบซึ่งจะดำเนินการต่อไปจนกระทั่งสถานการณ์ราคาปุ๋ยจะคลี่คลายลง หรือหมด 3,500,000 กระสอบที่เหลือนี้จะขอมอบหมายให้เกษตรจังหวัด สหกรณ์จังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดช่วยดำเนินการในเรื่องนี้ให้บรรลุผลตามนโยบายและประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเกษตรกรรับทราบต่อไป" นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้ที่ราคาปุ๋ยได้ปรับตัวสูงขึ้นมากเพราะแม่ปุ๋ยทั้งหมดเกือบ 100% ต้องนำเข้าจากต่างประเทศจึงขึ้นอยู่กับภาวะราคาตลาดในต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ราคาปุ๋ยสูงขึ้นเพราะต้นทุนราคาน้ำมันดิบเป็นต้นทุนสำคัญในการขนส่งสูงขึ้นประมาณ 30% และประเทศจีนที่ประเทศที่ไทยนำเข้ามาเป็นหลักได้มีการประมูลปุ๋ยให้กับประเทศอินเดียเป็นล็อตใหญ่มาก และจีนต้องเก็บปุ๋ยไว้ใช้ในฤดูหว่านไถของประเทศ ทำให้ซัพพลายในตลาดโลกลดน้อยลง และค่าระวางเรือ ค่าขนส่ง ค่าน้ำมันสูงขึ้นทำให้ราคาปุ๋ยในช่วงที่ผ่านมาสูงขึ้น จึงจัดปุ๋ยราคาพิเศษเพื่อช่วยให้เกษตรกรสามารถสั่งซื้อผ่านโครงการนี้ได้ต่อไป
ด้านร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ระยะเวลาดำเนินโครงการตามนโยบายรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์นี้ ตั้งแต่เดือนก.ค.-ส.ค. 2564 เป็นเวลา 2 เดือนหรือจนกว่าสินค้าจะหมด โดยปุ๋ยยูเรียราคาถูกกว่าปกติเฉลี่ยตันละ 1,000 บาท และปุ๋ยยูเรียมีการตรึงราคาในล็อตแรกที่ 650 บาทต่อกระสอบ ในขณะที่ราคาตลาด 825 บาทต่อกระสอบ และล็อตถัดไป 775 บาทต่อกระสอบ
นายทวีสุข เมฆธวัชชัยกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทเจียไต๋ จำกัด กล่าวว่า ปุ๋ยมีการนำเข้าเป็นเรือขนาดใหญ่ ปุ๋ยที่นำเข้าจากต่างประเทศมีค่าขนส่งที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันทำให้สูงขึ้นร่วมกับมีการต้องการใช้ปุ๋ยทั่วโลกมากเพิ่มขึ้น ซึ่งประเทศไทยพึ่งพาการนำเข้าเกือบ 100% ปุ๋ยที่ผลิตต้องนำวัตถุดิบมาเพื่อผลิตในประเทศ เฉพาะค่าขนส่งเพิ่มขึ้นเกินกว่าเท่าตัว ค่าปุ๋ยเกินกว่า 60% ขณะที่ราคาปุ๋ยในปัจจุบันค่อยๆปรับขึ้นตามสถานการณ์ปัจจุบันตามต้นทุนที่เปลี่ยนไป การนำเข้าเป็นการนำเข้าล่วงหน้า 30-45 วัน และอัตราแลกเปลี่ยนที่เปลี่ยนจาก 30 เป็น 33 บาท จากการคาดการณ์ล่าสุดไตรมาสที่ 3 (ต.ค.ธ.ค.)ในปุ๋ยบางสูตรราคาจะต่ำลง สมาชิกสหกรณ์ดีใจมากเพราะปุ๋ยมีราคาต่ำลงแนวโน้มหลังจากนี้
สำหรับโครงการนี้ สถาบันเกษตรกรที่สนใจซื้อปุ๋ยราคาต่ำกว่าท้องตลาดสามารถแจ้งความต้องการซื้อได้ผ่านตามช่องทางดังนี้ 1. กรณีเป็นสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรแจ้งต่อสํานักงานสหกรณ์จังหวัดทุกจังหวัดสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่สํานักงานสหกรณ์จังหวัดตามเบอร์โทรในเว็บไซต์ https://www.cpd.go.th/cpdth2560/contact-office/email-cpd 2. กรณีเป็นสถาบันเกษตรกรอื่นๆ(ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน/วิสาหกิจชุมชน/แปลงใหญ่)แจ้งต่อสํานักงานเกษตรอําเภอ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย กรมส่งเสริมการเกษตร โทร 02 9551515