ธอส.ยังไม่พบสัญญาณเงินฝากไหลเข้าแบงก์
เอ็มดีธอส.เผย ยังไม่พบสัญญาณเงินฝากไหลเข้าแบงก์ เตือนผู้ฝากอย่าแห่ถอนเงินแบงก์พาณิชย์มาฝากแบงก์รัฐ เพราะนอกจากจะทำให้แบงก์เดิมมีปัญหาแล้ว ผู้ฝากเงินแบงก์รัฐยังจะได้รับดอกเบี้ยที่ลดลงจากต้นทุนแบงก์รัฐที่เพิ่มขึ้นด้วย
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.)กล่าวว่า ขณะนี้ ธนาคารยังไม่เห็นสัญญาณว่า จะมีเงินไหลเข้ามาแบงก์มากขึ้น แม้ว่า แบงก์เองจะเป็นหนึ่งในแบงก์รัฐที่รัฐบาลดูแลผู้ฝากเงินก็ตาม ซึ่งเข้าใจว่า ที่ผ่านมาสถาบันการเงินได้ให้ความรู้แก่ผู้ฝากเงิน ทำให้ผู้ฝากเงินเองมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการคุ้มครองเงินฝากได้มากขึ้น
ทั้งนี้ การคุ้มครองเงินฝากจะอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่สถาบันการเงินถูกสั่งปิดกิจการ แต่ขณะนี้ ภาพรวมฐานะการเงินของสถาบันการเงินมีความเข้มแข็ง ดังนั้น การคุ้มครองในวงเงินที่กำหนดจึงไม่เกิดขึ้น ยกเว้นแต่ว่า ผู้ฝากเงินจะเกิดความไม่มั่นใจ และ แห่ไปถอนเงินฝาก ทำให้แบงก์นั้นๆมีปัญหา เป็นต้น
“ถามว่า ปัจจัยที่จะทำให้แบงก์ถูกปิดกิจการมันเกิดขึ้นหรือเปล่าในขณะนี้ เมื่อไม่เกิดขึ้น ก็ไม่เข้าข่ายต้องคุ้มครอง ดังนั้น ในขณะนี้ ถ้าลูกค้ายังอยู่นิ่งๆ เหมือนคนที่เดินเล่นอยู่บนเรือ ถ้ายังลอยอยู่นิ่งๆ เรือก็จะไม่คว่ำ แต่ถ้าลูกค้าแห่ไปอออยู่หน้าเรือหรือท้ายเรือ หรือ โยกเงินไปแบงก์อื่นทั้งหมด เรือก็อาจจะล่มได้”
อย่างไรก็ดี หากลูกค้าต้องการถอนเงินฝากจากแบงก์พาณิชย์ต่างๆมาฝากที่แบงก์รัฐ ลูกค้าก็ต้องเข้าใจด้วยว่า เมื่อเงินไหลมาอยู่ในที่เดียวกันจำนวนมากๆ ผู้รับฝากเงินเขาก็จะต้องลดต้นทุนด้วยการลดดอกเบี้ยเพราะต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ฉะนั้น ก็จะทำให้ลูกค้าได้รับดอกเบี้ยน้อยลง
“ด้วยความเป็นรัฐ คนรับรู้ว่า รัฐเป็นรัฐ รัฐมั่นคง อาจจมีการถอนเงินมา ก็ทำได้ แต่โดยธรรมชาติ เมื่อรับฝากเงินเข้ามาเยอะ เขาก็จะลดดอกเบี้ย เมื่อลดดอกเบี้ย จะทำอย่างนี้ทำไม ก็ทำตัวปกติ เพราะเงื่อนไขจะทำให้แบงก์คุ้มครองมันไม่มี ยกเว้นจะทำกันเอง”