'ตาลีบัน' ประกาศนิรโทษกรรมทั่ว 'อัฟกานิสถาน' เปิดผู้หญิงร่วมรัฐบาล
กลุ่มตาลีบัน ประกาศนิรโทษกรรมทั่วอัฟกานิสถานวันนี้ พร้อมทั้งชวนให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมในรัฐบาลได้ เพื่อคลายความกังวลที่เกิดขึ้นทั่วกรุงคาบูล
หลังเกิดความโกลาหลที่ประชาชนกรูกันเข้าไปที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮามิด คาร์ไซ ในกรุงคาบูล เพื่อหนีออกนอกประเทศในวานนี้ (16 ส.ค.)
นายเอนามุลเลาะห์ ซามันกานี หนึ่งในคณะกรรมการวัฒนธรรมของกลุ่มตาลีบัน ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปกครองเป็นครั้งแรก หลังกลุ่มเข้าควบคุมพื้นที่ทั่วอัฟกานิสถาน
แม้จะยังไม่มีรายงานถึงเหตุคุกคามที่รุนแรงหรือการปะทะกันในกรุงคาบูล แต่ประชาชนจำนวนมากยังคงอยู่ในบ้านด้วยความหวาดกลัว ขณะที่คนรุ่นเก่ายังคงมีภาพจำของกลุ่มอิสลามที่อนุรักษ์นิยมแบบสุดขั้วตลอดช่วงเวลาที่กลุ่มตาลีบันยึดครองประเทศ ก่อนที่สหรัฐจะส่งกองทัพลงมาหลังเหตุวินาศกรรมเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2544
"เอมิเรตอิสลามไม่ต้องการให้ผู้หญิงตกเป็นเหยื่อ" ซามันกานีกล่าวโดยใช้ชื่อเรียกประเทศอัฟกานิสถาน ตามที่ใช้กันในกองกำลังว่า เอมิเรตอิสลามแห่งอัฟกานิสถาน (Islamic Emirate of Afghanistan) และระบุว่า "ผู้หญิงควรอยู่ในระบบรัฐบาลด้วยตามกฎหมายชารีอะห์"
ซามันกานีเผยอีกว่า "ตอนนี้โครงสร้างรัฐบาลยังไม่ชัดเจน แต่จากประสบการณ์นั้นคาดว่า ควรจะมีคณะรัฐบาล ที่เป็นอิสลามเต็มตัว แต่จะให้ทุกฝ่ายเข้าร่วมได้"
นอกจากนี้ กลุ่มตาลีบัน เข้ายึดครองกรุงคาบูล สั่งการให้นักรบของกลุ่มรักษาวินัยอย่างเคร่งครัด และไม่เข้าไปในสำนักงานสถานทูตต่างชาติ หรือเข้าไปยุ่งกับยานพาหนะสถานทูต เพื่อให้คนทั่วไปเดินทางได้ตามปกติ
เจ้าหน้าที่อาวุโสของกลุ่มตาลีบัน กล่าวว่า “สมาชิกตาลีบันทุกระดับชั้นได้รับคำสั่งดังกล่าว เพื่อสร้างหลักประกันว่าเราจะไม่ดูหมิ่นประเทศใดๆ ในอัฟกานิสถาน”
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังกลุ่มตาลีบันได้เข้าควบคุมอำนาจในอัฟกานิสถานอีกครั้งในรอบ 20 ปี หลังถูกกองทัพสหรัฐขับไล่ออกไป ด้านนายอัชราฟ กานี ประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน ได้เดินทางออกนอกประเทศไปเมื่อคืนวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา
แม้จะยังไม่มีรายงานถึงเหตุคุกคามที่รุนแรงหรือการปะทะกันในกรุงคาบูล แต่ประชาชนจำนวนมากยังคงอยู่ในบ้านด้วยความหวาดกลัว ขณะที่คนรุ่นเก่ายังคงมีภาพจำของกลุ่มอิสลามที่อนุรักษ์นิยมแบบสุดขั้วตลอดช่วงเวลาที่กลุ่มตาลีบันยึดครองประเทศ ก่อนที่สหรัฐ จะส่งกองทัพลงมาหลังเหตุวินาศกรรมเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2544