ภูเก็ต ขยายมาตรการคัดกรองคนเข้าพื้นที่ ถึง 14 ก.ย.นี้ เหตุผู้ติดเชื้อยังสูง
ภูเก็ต ออกคำสั่งขยายมาตรการคัดกรองคนเข้าพื้นที่ ออกไปจนถึง 14 ก.ย.นี้ เหตุยังมีตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูง ยกเว้นผู้ที่เดินทางเข้ามารูปแบบของ นทท. แต่ต้องฉีดวัคซีนครบโดส, มีผลตรวจหาเชื้อเป็นลบ และแสดงเอกสารการจองห้องพัก
เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 51/2564 ซึ่งมี นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุม โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม มีวาระสำคัญ คือ การพิจารณามาตรการคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 2019 เนื่องจากคำสั่งเดิมสิ้นสุดลงในวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ซึ่งมีการแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย และก่อนหน้านี้ได้มีการประชุมรอบนอกเพื่อพิจารณาข้อดีข้อเสียของการใช้คำสั่งเดิมหรือจะยกเลิก ส่วนใหญ่เห็นควรให้เปิดรับผู้ที่จะเดินทางเข้ามาได้ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ในขณะที่ทางด้านของสาธารณสุขยังมีความกังวลเนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงสูงต่อเนื่อง เกรงว่าจะยิ่งเป็นการเข้ามาเติมเชื้อมากขึ้น
นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของจังหวัดภูเก็ตว่า เริ่มมีการแพร่ระบาดในชุมชนแออัดซึ่งมาจากแรงงานประมงต่างด้าว ก่อนจะขยายมาในตลาด แคมป์คนงานและขยายเข้าสู่ชุมชน ซึ่งขณะนี้แหล่งใหญ่จะอยู่ที่ชุมชนชาวไทยใหม่หรือชาวเล ซึ่งมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อในทุกชุมชน ทั้งแหลมตุ๊กแก ราไวย์ และสะปำ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ป่วยสีเขียว ซึ่งมาตรการของสาธารณสุข คือ การรักษาและจำนวนเตียง ดังนั้นในการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกจึงเน้นไปยังกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะกลุ่ม 608 เมื่อตรวจมากจะเจอมาก ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการแต่ต้องแยกตัวออกจากชุมชน ขณะนี้ภูเก็ตถือว่า มีการตรวจคัดกรองค่อนข้างสูง โดยตรวจไปแล้ว 28,000 คน ในจำนวนนี้พบผู้ติดเชื้อประมาณ 1,600 -1,700 คน ซึ่ง เห็นด้วยที่จะมีการเติมเศรษฐกิจ แต่ขณะเดียวต้องยอมรับด้วยว่า จะมีการเติมเชื้อเข้ามาด้วยเช่นกัน ซึ่งก็ต้องระมัดระวัง เพราะบอกไม่ได้ว่าจะมากน้อยเพียงใด
ขณะที่นายแพทย์เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ได้กล่าวเสริมว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะได้รับการฉีดวัคซีนแล้วจึงไม่ค่อยแสดงอาการ จึงมีความเสียงน้อย ยกเว้นในกลุ่ม 608 ซึ่งยังไม่ได้ฉีดวัคซีน เป้นกลุ่มที่น่ากังวล ซึ่งหากเรายังมีการตรวจอย่างเข้มข้นก็ยังคงมีการพบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก และจะต้องมีการหาสถานที่กักตัวไม่สิ้นสุด โดยเฉพาะในปัจจุบันที่มีการพบผู้ติดเชื้อเฉลี่ยวันละประมาณ 150 คน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องปรับยุทธศาสตร์ Quick Win : ผู้ติดเชื้อที่รุนแรงไม่เพิ่มขึ้น, ประชาชนมีภูมิคุ้มกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมและป้องกันโรคโควิด-19
1. ใช้มาตรการยุติการเคลื่อนไหวของคนอย่างเป็นรูปธรรมและลดกิจกรรมที่ไม่จำเป็น
2.เน้นการตรวจเชิงรุกเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย เช่น กลุ่ม 608 โดยมุ่งเน้นให้ อปท. ชุมชน เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น และให้ทางพื้นที่ช่วยเฝ้าระวังและตรวจเฉพาะบ้านหรือชุมชมที่เป็นกลุ่ม 608 หรือเคสป่วยรีบแจ้งและรีบนำมาเข้าระบบการรักษา
3.แนวทางจัดการกลุ่มป่วยสีเขียว Home Isolation กักตัวในพื้นที่ที่ท้องถิ่นหรือชุมชนกำหนด, OQ Factory Quarantine สีเหลือง หรือเป็นกลุ่มเสี่ยง รพ.สนามในพื้นที่ สีแดง เข้ารักษาตัวใน รพ.
4.ระดมฉีดบูสเตอร์แอสตร้าเซเนก้าเข็ม 3 ให้แล้วเสร็จภายใน เดือนกันยายน 2564 ทั้งนี้ หากดำเนินการได้ดังกล่าว คาดว่าจะทำให้การควบคุมโรคของจังหวัดภูเก็ตเป็นไปในแนวทางที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้มีการแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย ที่ประชุมมีมติว่า ให้ขยายมาตรการตรวจคัดกรองที่ประกาศใช้อยู่เดิมออกไปอีกสักระยะหนึ่ง เพื่อดูสถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อว่าเป็นอย่างไร เนื่องจากขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19ภูเก็ต เป็นขาขึ้น และยังไม่พีกที่สุด ทั้งนี้ จังหวัดภูเก็ตได้ออกคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 5139/2564 มีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ 1-14 กันยายน 2564 โดยยังคงมาตรการเดิมเป็นหลัก ซึ่งผู้เข้าจังหวัดภูเก็ตมี 16 กลุ่มที่ได้รับการยกเว้นภายใต้เงื่อนไขการฉีดวัคซีนครบโดส และมีผลการตรวจโควิด-19 ด้วยวิธีการ RT-PCR หรือ Antigen Test เป็นลบ มีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง และเพิ่มเติมกรณีที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว จะต้องมีหลักฐานการจองโรงแรมหรือที่พักแบะชำระค่าค่าที่พักล่วงหน้า นอกจากนี้จะต้องฉีดวัคซีน 2 เข็ม และมีผลตรวจโควิด-19 มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ หากอยู่เกิน 7 วันต้องตรวจโควิดอีกรอบในวันที่ห้าของการพัก (เฉพาะกลุ่มนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย.เป็นต้นไป)