ภูเก็ตเร่งระดมบูสเตอร์เข็ม 3 "แอสตร้า" พร้อมลุยฉีดใต้ผิวหนัง ให้เสร็จ ก.ย. นี้

ในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 55 /2564 ที่ห้องประชุมชั้น 5 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เพื่อหารือมาตรการการป้องกันโรคโควิด -19 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยมีนายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน มีหัวหน้าส่วนราชการ และภาคเอกชน เข้าร่วม 

ซึ่งที่ประชุมได้มีมติรับหลักการเห็นชอบให้จัดงาน ประเพณีถือศีลกินผัก ประจำปี 2564 และประเพณีสารทเดือนสิบภายใต้มาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยทางจังหวัดจะออกประกาศรายละเอียดการดำเนินการอย่างเป็นทางการต่อไป 

อ่านข่าว-ด่วน! ยอด โควิด-19 วันนี้ ติดเชื้อเพิ่ม 14,555 ราย เสียชีวิต 171 ราย ATK อีก 1,630 ราย

นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาข้อเสนอของผู้ประกอบการภาคประชาชนที่ต้องการให้มีการอนุญาตจำหน่ายและดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ ภายใต้มาตรการที่กำหนด ซึ่งประเด็นนี้จังหวัดภูเก็ตเคยเสนอข้อมูลให้ ศบค.ส่วนกลางแล้ว และได้มีมติให้ชะลอการพิจารณาออกไปก่อน เนื่องจากในพื้นที่ยังมีจำนวนผู้ติดเชื้อสูง แต่ทางตัวแทนต้องการให้นำเสนออีกครั้ง 

ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปิดรับนักท่องเที่ยว และจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารยังจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่เฉพาะในโรงแรมเท่านั้นแต่หมายรวมถึงร้านอาหารและเครื่องดื่มทั่วไป ประกอบกับมองว่า การดื่มแอลกอฮอล์ในระหว่างการรับประทานอาหารไม่ได้เป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาด

ในการนี้ นายแพทย์เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวรายงานความคืบหน้าการฉีดวัคซีนบูสเข็ม 3 ให้กับคนภูเก็ต ว่า มีข่าวดีเรื่องการฉีดวัคซีนบูสเข็ม 3 ให้ชาวจังหวัดภูเก็ต แอสตร้าเซนเนก้า AstraZeneca จำนวน 50,000 โดส และกรมควบคุมโรคส่งมอบมาให้อีกประมาณ 22,500 โดส รวมแล้วจังหวัดภูเก็ตได้รับวัคซีนมาประมาณ 72,500 โดส

 และได้มีการบูสเข็ม 3 ให้คนภูเก็ตไปแล้วประมาณ 40,000 คน จากจำนวนที่ลงทะเบียนไว้ 80,000 คน โดยเป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคมาแล้ว 2 เข็ม ซึ่งเริ่มฉีดระหว่างวันที่ 12-18 กันยายน 2564 สำหรับประชาชนที่มีทะเบียนบ้านจังหวัดภูเก็ต และในระหว่างวันที่ 19-25 กันยายน 2564 ฉีดให้กับประชากรแฝง บุคลากรภาครัฐเอกชนที่ทำงานในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และในระหว่างวันที่ 26-30 กันยายน 2564 ฉีดให้กับประชาชนทั่วไป

รวมถึงกลุ่มแรงงานต่างด้าวและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ต หากดำเนินการได้ตามแผนดังกล่าว คาดว่าจะทำให้การควบคุมและป้องกันโรคของจังหวัดภูเก็ตเป็นไปในแนวทางที่ดีขึ้น

 

นายแพทย์เฉลิมพงษ์ กล่าวถึงการฉีดวัคซีนบูสเข็ม 3 ใต้ผิวหนัง ซึ่งทราบว่ากระทรวงสาธารณสุขไฟเขียวให้มีการฉีดวัคซีนบูสเข็ม 3 ใต้ผิวหนังได้แล้วทั่วประเทศ



โดยในส่วนของโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตได้ทำการศึกษาวิจัยเรื่องนี้สำเร็จแล้ว และพบว่าการฉีดเข้าทางผิวหนังนั้น เกิดภูมิคุ้มกันไม่ได้ต่างกับการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ แต่ผลกระทบมีน้อยกว่าการฉีดเข้าทางกล้ามเนื้อ

ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตมีความพร้อมในการฉีดวัคซีนเข็ม 3 เข้าทางผิวหนังอยู่แล้ว เพราะได้มีการศึกษาวิจัยมาแล้วระยะหนึ่ง รอเพียงหนังสือสั่งการอย่างเป็นทางการเท่านั้นเอง