สรุป "น้ำท่วม" 5 จังหวัด พร้อมรับมือพายุ "เตี้ยนหมู่"

สรุป "น้ำท่วม" 5 จังหวัด พร้อมรับมือพายุ "เตี้ยนหมู่"

ปภ. รายงานยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมใน 5 จังหวัด เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย – ระบายน้ำ พร้อมรับมือภาวะฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุ "เตี้ยนหมู่"

เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 64 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานในช่วงวันที่ 16-24 ก.ย. 64 เกิดสถานการณ์น้ำท่วมใน 19 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลําปาง ตาก สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กําแพงเพชร ชัยภูมิ เลย นครราชสีมา ศรีสะเกษ ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี และนครศรีธรรมราช รวม 65 อำเภอ 189 ตำบล 807 หมู่บ้าน 5 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 18,436 ครัวเรือน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 14 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ใน 5 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร ชัยภูมิ นครราชสีมา พระนครศรีอยุธยา และสุโขทัย

ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือประชาชนแล้ว อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า พายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” จะอ่อนกำลังเป็นพายุดีเปรสชันปกคลุมบริเวณจังหวัดอำนาจเจริญและอุบลราชธานีในวันนี้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ปภ. ได้เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนักและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นตลอด 24 ชม. รวมถึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารและการแจ้งเตือนภัยจากทางราชการอย่างใกล้ชิด หากมีประกาศหรือคำเตือนขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด

อ่านข่าว : ประกาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 4 พายุโซนร้อน "เตี้ยนหมู่"

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงาน จากอิทธิพลร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 64 - ปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ 19 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลําปาง ตาก สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กําแพงเพชร ชัยภูมิ เลย นครราชสีมา ศรีสะเกษ ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี และนครศรีธรรมราช รวม 65 อำเภอ 189 ตำบล 807 หมู่บ้าน 5 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 18,436 ครัวเรือน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 14 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ใน 5 จังหวัด ดังนี้ 

1. พิจิตร ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบึงนาราง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง อำเภอโพทะเล อำเภอสามง่าม และอำเภอดงเจริญ ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำการเกษตร 

2. ชัยภูมิ เกิดฝนตกหนักทำให้ลำน้ำชีเอ่อเข้าท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหนองบัวระเหว อำเภอจัตุรัส อำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอเนินสง่า และอำเภอบ้านเขว้า ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ 

 

3. นครราชสีมา ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอด่านขุนทด อำเภอ สูงเนิน อำเภอโนนสูง อำเภอเมืองนครราชสีมา และอำเภอพิมาย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำที่ไหลมาจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร 

4. พระนครศรีอยุธยา เกิดน้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอได้แก่ อำเภอผักไห่ อำเภอเสนา และอำเภอบางบาล ปัจจุบันมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และคลองโผงเผงซึ่งอยู่นอกคันกั้นน้ำ 

5. สุโขทัย เกิดฝนตกหนักทําให้น้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสุโขทัย อำเภอศรีสำโรง อำเภอศรีสัชนาลัย และอำเภอ   คิรีมาศ ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ

ภาพรวมสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่รับน้ำ ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ 

อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า พายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองกวางนาม ประเทศเวียดนามแล้ว คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันปกคลุมบริเวณจังหวัดอำนาจเจริญและอุบลราชธานีในวันนี้ (24 ก.ย. 64) ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง

ปภ.จึงได้ประสาน 57 จังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักและเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 24 – 25 ก.ย. 64 โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด และเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย

ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารและการแจ้งเตือนภัยจากทางราชการอย่างใกล้ชิด หากมีประกาศหรือคำเตือนขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด หากพบเห็นหรือได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และแอปพลิเคชัน “พ้นภัย” รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป