"ไทยออยล์" เร่งลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก หนุนการพัฒนายั่งยืน
"ไทยออยล์" เร่งแผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพิ่มประสิทธิภาพใช้พลังงาน หนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน เผย 3 โปรเจค ลดปล่อยก๊าซ 1.6 หมื่นตัน
รายงานข่าวจากบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ Thaioil ระบุว่า ไทยออยล์ได้รับประกาศเกียรติคุณโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (Low Emission Support Scheme: LESS) ประจำปี 2564 จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก.ที่ให้กับผู้ประกอบการที่เป็นตัวอย่างในการดำเนินกิจกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ไทยออยล์ได้รับการประกาศเกียรติคุณฯ จากการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานการผลิต 3 โครงการ ซึ่งสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 16,593.293 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2eq)
นอกจากนี้ บริษัท ท็อปเอสพีพี จํากัด บริษัทในกลุ่มไทยออยล์ ยังได้รับการรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจกภายใต้โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VER) จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานร่วมขนาด 239 เมกะวัตต์ สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 310,358 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2eq) อีกด้วย
ทั้งนี้ กลุ่มไทยออยล์มีแผนในการพัฒนาระบบการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดนโยบายคุณภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัย อาชีวอนามัย สิ่งแวดล้อม การจัดการพลังงาน และความรับผิดชอบต่อสังคมของกลุ่มไทยออยล์ (QSHE - Energy - CSR Policy) เป็นกรอบในการดำเนินงาน
รวมทั้งมีการตั้งเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกและกำหนดกลยุทธ์ “Clean and Green Strategy” ที่มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (Energy Efficiency) การลงทุนในธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Business) และรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Revenue Growth) เพื่อผลักดันการดำ เนินธุรกิจสู่เศรษฐกิจสีเขียว (Towards Green Economy) และรักษาไว้ซึ่งสิ่งแวดล้อมที่ดีควบคู่กับการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ไทยออยล์เป็นผู้ประกอบธุรกิจการกลั่นและจำหน่ายนํ้ามันปิโตรเลียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นโรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2504 โดยมีธุรกิจหลักคือ การกลั่นนํ้ามันปิโตรเลียม ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 275,000 บาร์เรลต่อวัน
รวมทั้ง ไทยออยล์มีระบบการบริหารจัดการที่มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ (Operational Excellence) โดยบริหารงานเป็นกลุ่มที่มีการเชื่อมโยงธุรกิจ ทั้งธุรกิจการกลั่นน้ำมัน ธุรกิจปิโตรเคมีและธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน โดยร่วมวางแผนการผลิตก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีต้นทุนต่ำ
ขณะเดียวกันมีคุณภาพสูงในระดับโรงกลั่นชั้นนำ (Top quartile) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทำให้ได้เปรียบเชิงต้นทุนการผลิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนั้น ยังมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องหลากหลาย เช่น ธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจสารทำละลาย ธุรกิจบริหารการขนส่ทางท่อ ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจผลิตสารตั้งต้นสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์สารทำความสะอาด ธุรกิจบริการจัดเก็บนํ้ามันดิบ นํ้ามันปิโตรเลียม และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี และธุรกิจให้บริการด้านการสรรหาและคัดเลือกบุคลากรสำหรับกลุ่มไทยออยล์