ลพบุรี เร่งอพยพชาวบ้านท้ายเขื่อนป่าสักฯ หนีน้ำท่วม เตือน 5 จังหวัด รับมือ
ผวจ.ลพบุรี สั่งอพยพชาวบ้านท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ หนีน้ำท่วม หลังน้ำเกินความจุ เตรียมปล่อยน้ำเพิ่มอีกเท่าตัว ด้านปภ.ออกหนังสือ "ด่วนที่สุด" ถึงผวจ. 5 จังหวัด ให้เฝ้าระวังสถานการณ์เตรียมรับผลกระทบ
เมื่อวันที่ 30. ก.ย.64. นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ความเสี่ยงน้ำท่วม บริเวณเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์น้ำที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำในเขื่อนที่ 1,014.15 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 105.64 ของความจุที่ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร
โดยยังมีมวลน้ำเหนือไหลลงเขื่อนอยู่ที่ 153.40 ล้านลูกบาศก์ต่อวัน ทำให้ต้องเปิดประตูระบายน้ำครบ 7 บาน เพื่อปรับเพิ่มการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนอีกเท่าตัว จากเมื่อวาน 50 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวันเพิ่มเป็น 103 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
ปัจจุบันมีน้ำเหนือไหลลงตัวเขื่อนในปริมาณมาก และยังคงต้องระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อย่างต่อเนื่องจึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อาจทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่ อ.วังม่วง อ.แก่งคอย อ.เมืองสระบุรี อ.เสาไห้ จ.สระบุรี และ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มสูงขึ้นจากระดับปัจจุบัน 1.00 ถึง 1.50 เมตร เมื่อปริมาณน้ำทางตอนบนลดลง เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จะเริ่มปรับลดการระบายเพื่อลดปริมาณน้ำด้านท้ายลง
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ออกหนังสือ "ด่วนที่สุด" ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัด ประกอบด้วย จ.ลพบุรี จ.สระบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี และจ.นนทบุรี ให้เฝ้าระวังสถานการณ์เตรียมรับผลกระทบจากการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เต็มความจุของอ่างและกรมชลประทานมีความจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำ ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมแม่น้ำป่าสักตั้งแต่ท้ายเขื่อนพระรามหกในชุมชนนอกคันกั้นน้ำบริเวณ วัดสะตือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น
พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีได้ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ และเยี่ยมครอบครัวประชาชน ผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำเพิ่มของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จำนวน 32 ครัวเรือน ณ ศูนย์อพยพชั่วคราว เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ แก่ผู้ประสบภัยด้วย