ปส. แถลงจับไอซ์ล็อตใหญ่ 130 กิโล และ ยาบ้ากว่า 4 ล้านเม็ด
"ผบช.ปส." แถลงจับยาบ้ากว่า 4 ล้านเม็ด ลำเลียงจากชายแดน จ.เชียงราย ส่งให้ลูกค้าพื้นที่ภาคกลาง อีกคดียาไอซ์ล็อตหนัก 130 กิโลกรัม นายทุนรายใหญ่พื้นที่อีสาน
4 ตุลาคม 2564 พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. และตัวแทนเจ้าหน้าที่ จากสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดจำนวน 2 คดี สามารถจับกุมผู้ต้องได้รวม 5 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางยาบ้า 4,299,965 เม็ด ไอซ์ 130 กิโลกรัม เคตามีน 2 กิโลกรัม รถยนต์ 4 คัน ปืน 4 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนอีกจำนวนมาก
พล.ต.ท.สรายุทธ กล่าวว่า คดีแรก เจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ปส.3 ได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ ปปส. สืบสวนจับกุมนายทวี โสภณมหาลาภ อายุ 45 ปี ชาว จ.เชียงราย พร้อมของกลาง ยาบ้า 3,800,000 เม็ด เคตามีน 2 กิโลกรัม รถยนต์กระบะ 1 คัน และอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุน จำนวน 1 กระบอก หลังก่อนหน้านี้สืบทราบว่าเครือข่ายยาเสพติดชาติพันธุ์อาข่าบ้านผาขาว จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนด้าน อ.ดอยตุง จ.เชียงราย เข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ เพื่อนำส่งขายยังพื้นที่ภาคกลาง กรุงเทพและปริมณฑล โดยใช้รถยนต์กระบะ จึงจัดกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ตามเส้นทางต่างๆ
จนกระทั่งพบ รถกระบะคลุมปิดท้ายด้วยผ้าใบ ในลักษณะต้องสงสัย ขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ ม.7 ต.แม่ไร่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย โดยมีนายทวี เป็นคนขับ จึงเข้าตรวจสอบตรวจยึดของกลางทั้งหมด สอบสวนนายทวีรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากนายทุนให้ลักลอบขนลำเลียงยาเสพติดของกลางดังกล่าวไปส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง
พล.ต.ท.สรายุทธ กล่าวต่อว่า คดีต่อมาตำรวจได้เข้าจับกุมนายจักรพัฒ โกสิลา อายุ 42 ปี ชาว จ.หนองคาย /นายนพคุณ กะรัมย์ อายุ 36 ปี ชาว จ.หนองคาย /นายประมุข จราจร อายุ 28 ปี ชาว จ.สงขลา และ น.ส.พนิดา แสวงวงศ์ อายุ 25 ปี ชาว.สงขลา พร้อมของกลาง ไอซ์ 130 กิโลกรัม ยาบ้า 499,965 เม็ด รถกระบะ 3 คัน อาวุธปืน AK-47 (อาก้า) ,M4 ,และปืนลูกซอง อีกอย่างละ 1 กระบอก ได้ที่ริมถนนพหลโยธิน หน้าตลาดวังน้อยเมืองใหม่ ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ต่อเนื่องบริเวณ ลานจอดรถดูโฮม สาขารังสิต ถ.รังสิต - นครนายก ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
ก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งสายลับว่ากลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 4 คน จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่จ.บึงกาฬ เข้ามาในพื้นที่ภาคกลาง จึงเฝ้าสะกดรอยติดตามจนกระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ สอบสวนให้การรับสารภาพว่า ยาเสพติดของกลางทั้งหมดเป็นของนายทุนยาเสพติดรายหนึ่งในพื้นที่ภาคอีสาน ที่ว่าจ้างให้กลุ่มของพวกตนลักลอบขนลำเลียง ได้รับค่าจ้างในการขน 1 แสนบาทต่อครั้ง ที่ผ่านมาเคยลักลอบขนสำเร็จมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งที่ลักลอบขนยาเสพติดส่งลูกค้าได้สำเร็จมากที่สุด เป็นไอซ์จำนวน 150 กิโลกรัม พร้อมกับยาบ้า 1 แสนเม็ด.
พล.ต.ท.สรายุทธ กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า ยังคงยืนยันนโยบายการปราบปรามยาเสพติด ตั้งเป้าลดการลักลอบค้า และผลิตยาเสพติด รวมถึงการสกัดกั้นลำเลียงยาเสพติด ตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน และยังตั้งเป้าในการบำบัดผู้ติดยาเสพติด เพื่อให้กลับไปใช้ชีวิตได้ปกติ ซึ่งขณะนี้กฏหมายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด อยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไขให้ทันสถานการณ์ จึงเชื่อว่า จะสามารถช่วยให้การทำงานของตำรวจปราบปรามยาเสพติดง่ายขึ้นในอนาคต