เช็คประกาศ กทม.ฉบับ 45 ไฟเขียวดื่มแอลกอฮอล์ในร้านไม่เกิน 3 ทุ่ม เฉพาะร้านผ่านมาตรฐาน SHA เท่านั้น
เช็คประกาศ กทม.ฉบับ 45 ยึดคำสั่ง ศบค.ไฟเขียวดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ไม่เกิน 21.00 น. เฉพาะร้านที่ผ่านมาตรฐาน SHA เท่านั้น
ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เสาชิงช้า ในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ กทม.ครั้งที่ 31/2564 ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบประกาศ กทม.เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 45) ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้มีคำสั่งกำหนดให้พื้นที่กรุงเทพฯ เป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว และมีการกำหนดมาตรการควบคุมแบบบูรณาการในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวเพิ่มเติม
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ เห็นชอบให้มีมาตรการผ่อนคลายสถานที่ให้สามารถเปิดดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างได้ โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด และมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาลโดยเคร่งครัด รวมทั้งต้องมีมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร(Covid Free Setting) โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 – 30 พ.ย.2564 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
นอกจากนี้ ตามคณะกรรมการโรคติดต่อ กทม.ได้ร่วมกันพิจารณาและมีความห่วงใยในการเปิดให้บริการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร และเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวและประชาชน จึงขอให้ผู้ประกอบการร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ดำเนินการปรับปรุงสถานประกอบการให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตใหม่ เพื่อยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และเข้ารับการตรวจประเมินความพร้อมมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA โดยลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ thailandsha.com รวมทั้งเคร่งครัดช่วงเวลาการให้บริการให้อยู่ภายในเวลา 21.00 น. ตามที่กำหนด
สำหรับสถานที่ที่สามารถเปิดดำเนินการได้ ประกอบด้วย
1.สถานรับเลี้ยงเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ศูนย์เด็กพิเศษ ให้สำนักอนามัย กทม. พิจารณาเปิดตามความเหมาะสม
2.ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ (ผู้รับบริการและเจ้าหน้าที่ได้รับวัคซีนครบ และมีการสุ่มตรวจเจ้าหน้าที่ทุกสัปดาห์)
3.ร้านอาหาร/เครื่องดื่มทั่วไป เปิดให้บริการตามเวลาปกติ แต่อนุญาตให้มีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เฉพาะร้านที่ผ่านมาตรฐาน SHA ของ ททท.และไม่เกินเวลา 21.00 น.
4.ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด ตลาดนัด เปิดให้บริการได้ตามเวลาปกติ
5.ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ทุกประเภท เปิดได้ โดยผู้ใช้บริการงดบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่ม และงดการจัดกิจกรรม
6.โรงภาพยนตร์ เปิดได้โดยจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการไม่เกินร้อยละ 75 ของจำนวนที่นั่ง
7.สถานเสริมความงาม ร้านเสริมสวย ทำเล็บ ร้านสัก เปิดให้บริการผ่านการนัดหมาย (ร้านสัก เฉพาะผู้รับบริการต้องได้รับวัคซีนครบหรือมีผลตรวจ RT-PCR หรือผล ATK ในระยะเวลา 72 ชม.)
8.สปา นวดแผนไทย ให้บริการเฉพาะนัดหมาย (เฉพาะการให้บริการประเภทใช้น้ำ ผู้รับบริการต้องได้รับวัคซีนครบ หรือมีผลตรวจ RT-PCR หรือผล ATK ในระยะเวลา 72 ชม.)
9.สวนสาธารณะ ลานกีฬา สนามกีฬา สระน้ำ กิจกรรมทางน้ำ เปิดได้
10.ยิม/ฟิตเนส ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโดยเคร่งครัด หากมีการอบตัวหรืออบไอน้ำ ผู้รับบริการต้องได้รับวัคซีนครบ หรือมีผลตรวจ RT-PCR หรือผล ATK ในระยะเวลา 72 ชม.)
11.การใช้สนามกีฬาเพื่อการแข่งขัน ผู้เข้าชมต้องได้รับวัคซีนครบ หรือมีผลตรวจ RT-PCR หรือผล ATK ในระยะเวลา 72 ชม.
12.โรงแรม ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม เปิดได้โดยห้ามบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ จัดให้มีช่วงเวลาพักระบายอากาศ เตรียมอาหารแบบแยกเป็นชุด
13.ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้ตามปกติ แต่งดกิจกรรมที่ทำให้เกิดความแออัด
14.โรงมหรสพ โรงละคร ต้องแจ้งขอเปิดดำเนินการต่อสำนักอนามัย กทม.
15.โรงเรียนสอนมวย ศิลปะการต่อสู้ (ยิม) สถาบันลีลาศ ต้องแจ้งขอเปิดดำเนินการต่อสำนักอนามัย กทม.
16.สถานที่ให้บริการควบคุมน้ำหนัก ศูนย์พระเครื่อง สนามพระเครื่อง สวนสัตว์ สถานที่จัดแสดงสัตว์ เปิดได้
17.สถานที่ให้บริการห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยง เปิดได้โดยห้ามบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ จัดให้มีช่วงเวลาพักระบายอากาศเตรียมอาหารแบบแยกเป็นชุด
18.สนามเด็กเล่น เครื่องเล่น ให้สำนักงานเขตพื้นที่พิจารณาอนุญาตตามความเหมาะสม
สำหรับสถานที่/กิจการที่สามารถเปิดได้ภายใต้มาตรการที่ทางราชการกำหนด และมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาลโดยเคร่งครัด รวมทั้งต้องมีมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร(Covid Free Setting) มีดังนี้
1.สถานประกอบกิจการอาบน้ำ อบไอน้ำ อบสมุนไพร (ผู้รับบริการต้องได้รับวัคซีนครบ หรือมีผลตรวจ RT-PCR หรือผล ATK ในระยะเวลา 72 ชม.)
2.สวนน้ำ สวนสนุก
สำหรับสถานที่ซึ่งยังคงให้ปิดดำเนินการ ได้แก่ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด ร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ต ตู้เกม สนามชนไก่ สนามซ้อมชนไก่ สนามชนโค สนามกัดปลา และสนามม้า รวมทั้งห้ามการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มบุคคลเกิน 1,000 คน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากสำนักอนามัย กทม.
ปัจจุบันสถานประกอบการในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ได้รับมาตรฐาน SHA จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 29 ตุลาคม 2564 มีสถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA จำนวนทั้งสิ้น 3,368 แห่ง แบ่งเป็น 10 ประเภท ดังนี้
1.ภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 1,350 แห่ง
2.โรงแรม ที่พัก โฮมสเตย์ จำนวน 657 แห่ง
3.นันทนาการและสถานที่ท่องเที่ยว จำนวน 51 แห่ง
4.ยานพาหนะ จำนวน 315 แห่ง
5.บริษัทนำเที่ยว จำนวน 427 แห่ง
6.สุขภาพและความงาม จำนวน 174 แห่ง
7.ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า จำนวน 82 แห่ง
8.กีฬาเพื่อการท่องเที่ยว จำนวน 8 แห่ง
9.การจัดกิจกรรมประชุม/โรงละคร จำนวน 63 แห่ง
10.ร้านค้าของที่ระลึกและร้านค้าอื่นๆ จำนวน 180 แห่ง
ขณะเดียวกันยังมีสถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA Plus จำนวน 194 แห่ง ดังนี้
1.ภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 6 แห่ง โรงแรม ที่พัก โฮมสเตย์ จำนวน 150 แห่ง
2.นันทนาการและสถานที่ท่องเที่ยว จำนวน 1 แห่ง
3.ยานพาหนะ จำนวน 4 แห่ง
4.บริษัทนำเที่ยว จำนวน 13 แห่ง สุขภาพและความงาม จำนวน 7 แห่ง
5.ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า จำนวน 5 แห่ง
6.กีฬาเพื่อการท่องเที่ยว จำนวน 1 แห่ง
7.การจัดกิจกรรมประชุม/โรงละคร จำนวน 1 แห่ง
8.ร้านค้าของที่ระลึกและร้านค้าอื่นๆ จำนวน 6 แห่ง