เช็คเลยที่ไหนบ้าง! ปภ.เตือน 11 จว.ภาคใต้พื้นที่เสี่ยง “อุทกภัย” 3-6 พ.ย.

เช็คเลยที่ไหนบ้าง! ปภ.เตือน 11 จว.ภาคใต้พื้นที่เสี่ยง “อุทกภัย” 3-6 พ.ย.

เช็คเลยที่ไหนบ้าง! “ปภ.” แจ้งเตือน 11 จังหวัด “ภาคใต้” เฝ้าระวัง “พื้นที่เสี่ยง” เตรียมรับมือ “อุทกภัย” ช่วง 3-6 พ.ย. ทั้งน้ำหลาก-ดินถล่ม อ่างเก็บน้ำล้น ระดับน้ำเพิ่มในพื้นที่ลุ่มต่ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2564 กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) ได้รับแจ้งจาก กองอำนวยการน้ำแห่งชาติว่า จากการประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำจากแผนที่ฝนคาดการณ์ (ONE MAP) ของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์กรมหาชน) พบว่า ในช่วงวันที่ 3-6 พ.ย. 2564 มีพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังอุทกภัย 11 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่  ระนอง ภูเก็ต และตรัง แบ่งเป็น

1.พื้นที่เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินถล่ม ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สตูล สงขลา  ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส 

2.พื้นที่เฝ้าระวังระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้น กระทบพื้นที่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำ ได้แก่ สุราษฎร์ธานี กระบี่ ระนอง ภูเก็ต และตรัง

3. พื้นที่เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นในพื้นที่ลุ่มต่ำ ได้แก่ แม่น้ำตาปี ได้แก่  สุราษฎร์ธานี คลองท่าดี ได้แก่ นครศรีธรรมราช  ทะเลสาบสงขลา และคลองอู่ตะเภา ได้แก่ สงขลา แม่น้ำปัตตานี ได้แก่ ยะลา และปัตตานี แม่น้ำโก-ลก ได้แก่ นราธิวาส

กอปภ.ก. จึงได้แจ้งให้ 11 จังหวัดและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า ให้จัดเตรียมเครื่องมือเครื่องจักรกลสาธารณภัยและทีมปฏิบัติการเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทันที หากมีแนวโน้มจะเกิดสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ ให้จังหวัดดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุอย่างเคร่งครัด 

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศ สถานการณ์ภัย และข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้เตรียมความพร้อมมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น หากได้รับความเดือดร้อนจากสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และแอปพลิเคชัน “พ้นภัย” รวมถึง สายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป