“ในหลวง” พระราชทานถุงพระราชทานแก่ผู้ประสบอุทกภัย จ.มหาสารคาม
“ในหลวง” ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลอากาศเอกจอม รุ่งสว่าง องคมนตรี เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค
ไปมอบแก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จ. มหาสารคาม ณ หอประชุมโรงเรียนท่าขอนยางพิทยาคม อ.กันทรวิชัย จ. มหาสารคาม
ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
วันนี้ (4 พ.ย.64) เวลา 10.04 น. พลอากาศเอกจอม รุ่งสว่าง องคมนตรีไปประชุมและติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมและรายงานสถานการณ์ ณ ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลตำบลท่าขอนยาง อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม
ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 2,500 ถุง ไปมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ซึ่งเป็นตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย ณ หอประชุมโรงเรียนท่าขอนยางพิทยาคม อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบ
ในโอกาสนี้ องคมนตรี เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวแก่ตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยและได้รับผลกระทบ รวมถึงเจ้าหน้าที่ให้รับทราบ ในการนี้ องคมนตรี ได้ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 5 ครอบครัว ตลอดจนพูดคุยให้กำลังใจ การได้รับพระราชทานพระมหากรุณาในครั้งนี้ราษฎรต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
จังหวัดมหาสารคาม แบ่งการปกครองออกเป็น 13 อำเภอ 133 ตำบล 1,944 หมู่บ้าน ได้รับอิทธิพลจากแม่น้ำชีและแม่น้ำสาขาที่ไหลผ่านจังหวัดมหาสารคาม ที่มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากต้องรับน้ำเหนือจากจังหวัดชัยภูมิ และเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ส่งผลให้มีพื้นที่ลุ่มต่ำได้รับผลกระทบจากมวลน้ำในแม่น้ำชีล้นตลิ่งและไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ถนน พื้นที่ทางการเกษตร ได้รับความเสียหายและได้รับผลกระทบใน 5 อำเภอ 30 ตำบล 250 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือนร้อน 7,535 ครัวเรือน
ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มคลี่คลายเข้าภาวะปกติแล้ว ทั้งนี้ องคมนตรีได้ให้คำแนะนำ เพื่อให้แต่ละหน่วยงานนำไปเป็นแนวทางในการป้องกันและช่วยเหลือประชาชนให้ทันท่วงที และไม่ให้เกิดซ้ำอีก กับกล่าวขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดฯ จิตอาสาพระราชทาน และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือประชาชน และเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาเป็นการเร่งด่วนต่อไป