อัพเดท ตรวจสอบเงินประกันรายได้เกษตรกร เช็คเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท

อัพเดท ตรวจสอบเงินประกันรายได้เกษตรกร เช็คเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท

เกาะติดอัพเดท ตรวจสอบเงินประกันรายได้เกษตรกร เช็คเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท โอนเงินชดเชยส่วนต่างราคา โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65

กระแสความสนใจของเกษตรกรชาวนา ตรวจสอบเงินประกันรายได้เกษตรกร เช็คเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท โอนเงินชดเชยส่วนต่างราคาข้าว โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65
 

ชาวนาเดินทางมารับเงินชดเชยส่วนต่างราคาข้าว หรือ เงินประกันราคาข้าว ตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 รอบที่ 1 คึกคัก บางรายนำเงินที่ได้ไปใช้หนี้ค่าปุ๋ยค่ายา ที่นับวันมีราคาแพงขึ้นอีก พร้อมวอนขอรัฐบาลช่วยให้ราคาข้าวสูงขึ้น เนื่องจากปุ๋ยราคาแพงมาก

วันที่ 12 พ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ที่ ธ.ก.ส. สาขาพิษณุโลก พบว่ามีเกษตรกร นำสมุดบัญชีธนาคารมาเบิกเงิน และปรับสมุดบัญชี หลังจากได้รับการโอนเงินชดเชยส่วนต่างราคาข้าว หรือ เงินประกันราคาข้าว ตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 รอบที่ 1 (งวดที่ 1 และ 2) ตามที่ รัฐบาลดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 นั้น 

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาพิษณุโลก ได้โอนเงินชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 จำนวน 36 ล้านบาท แต่ภาพรวมทั้งจังหวัดพิษณุโลกได้รับเงินก้อนดังกล่าวมาจำนวนกว่า 810 ล้านบาท กระจายไปยังสำนักงาน ธกส.ทั้ง 9 อำเภอ 15 สาขา แล้ว เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 จำนวน 2 งวด คืองวดที่ 1 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันเก็บเกี่ยวไม่เกินวันที่ 15 ตุลาคม 2564 งวดที่ 2 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันเก็บเกี่ยวไม่เกินวันที่ 15 - 21 ตุลาคม 2564

อัพเดท ตรวจสอบเงินประกันรายได้เกษตรกร เช็คเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท
 

นางจินตนา แก้วแจ้ง อายุ 53 ปี ชาวนา ต.ปากโทก อ.เมือง จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมาเบิกเงินชดเชยส่วนต่างราคาข้าวนาปี ที่ปลูกไว้จำนวน 26 ไร่ ซึ่งข้าวหอมพิษณุโลกปีนี้ขายได้ตันละ 5,900 บาท รัฐชดเชยส่วนต่างราคาข้าว ให้ตันละประมาณ 1,900 บาท รวมได้รับเงินชดเชยจำนวน 21,000 กว่าบาท 

ดีใจที่รัฐบาลนำเงินส่วนต่างมาช่วยเหลือชาวนา ที่จะสามารถบรรเทาค่าใช้จ่ายไปให้แก่ชาวนาได้ ซึ่งตนเงินก้อนนี้จะเบิกไปเพื่อลงทุนทำนารอบใหม่ต่อไป ส่วนหนึ่งก็จะนำไปใช้ค่าปุ๋ย ค่ายา ที่ติดค้างกับร้านต่างๆ ไว้ ซึ่งนับว่า โดยเฉพาะค่าปุ๋ย มีราคาแพงมาก 1,240 บาท/ลูก สิ่งที่อยากฝากบอกรัฐบาลคืออยากให้รัฐบาลช่วยให้ราคาข้าวเปลือกขายได้สูงเพราะราคาตันละ 5 พันกว่าบาทแทบไม่เหลือกำไร

ด้านนายกฤษณ์ ขวัญอ่อน ผู้จัดการธนาคาร ธ.ก.ส. เปิดเผยว่า ธกส.สาขาพิษณุโลก มีเกษตรกรขึ้นทะเบียนไว้จำนวน 1,609 ราย รัฐได้โอนเงินชดเชยส่วนต่างราคา ตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 รอบแรกจำนวน 36 ล้านบาท และทางธนาคารได้โอนเงินเข้าบัญชีให้กับเกษตรกรโดยตรง ไม่พบมีปัญหาเรื่องความแออัดในการแห่มาถอนเงินออกไปแต่อย่างใด เพราะระบบธนาคารมีแจ้ง SMS 

อัพเดท ตรวจสอบเงินประกันรายได้เกษตรกร เช็คเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท

สำหรับระบบเก่า ระบบใหม่แจ้งผ่าน แอพพิเคชั่นไลน์ หรือ เอ-โมบาย ชาวนาก็สบายใจมีเงินเข้ามาในบัญชี แต่ก็บางคนมาเช็คเงินว่ามีเงินเข้าแล้ว บางคนไม่มีเอทีเอ็มก็นำสมุดมาถอนเงินออกไปลงทุนทำนาต่อ หรือไปใช้จ่ายในครอบครัว บางรายบัญชีไม่สมบูรณ์ ก็เข้ามาแก้ไขที่ธนาคารก็มี แต่ส่วนใหญ่เรียบร้อยดี ไม่พบว่ามีปัญหาเรื่องการไม่ได้รับเงิน ส่วนการถอนเงินสามารถถอนจากตู้เอทีเอ็ม หรือจะถอนเงินจากธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

สำหรับจังหวัดพิษณุโลก ได้รับการโอนเงินชดเชยส่วนต่างราคาข้าว จำนวนกว่า 810 ล้านบาท มีการโอนเงินกระจายไปยังสำนักงาน ธกส.ทั้ง 9 อำเภอ 15 สาขา โดยเงินชดเชยรัฐจะโอนให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้กับสำนักงานเกษตรตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ที่ปลูกข้าวหอมมะลิจำนวน 14 ตัน ข้าวเจ้า 30 ตัน ข้าวหอม 16 ตัน แล้วขึ้นทะเบียนเป็นพันธุ์ข้าวอะไร ดูส่วนต่างของราคา เงินได้โอนมาแล้วตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 จำนวน 2 งวด คืองวดที่ 1 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันเก็บเกี่ยวไม่เกินวันที่ 15 ตุลาคม 2564 งวดที่ 2 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันเก็บเกี่ยวไม่เกินวันที่ 15 - 21 ตุลาคม 2564

ส่วนกรณี "เงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท" หรือ มาตรการช่วยเหลือค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2564/65 ซึ่งยังคงติดตาม คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) กรณีจ่ายเงินเยียวยาให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ไร่ละ 1,000 บาท จำกัดไม่เกิน 20 ไร่ต่อครัวเรือน หรือไม่เกิน 20,000 บาท ซึ่งมติ ครม. อนุมัติ เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2564 โดยสามารถตรวจสอบเว็บไซต์ chongkho.inbaac.com แล้วกรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมกดค้นหา

สำหรับผู้ที่ได้รับเงิน ระบบจะขึ้นข้อมูลว่า “โอนเงินเรียบร้อยแล้ว” หากผู้ที่ไม่ใช่เกษตรกรตรวจสอบระบบจะขึ้นข้อมูลว่า “ไม่พบข้อมูลการลงทะเบียน ติดต่อหน่วยงานที่รับขึ้นทะเบียนเกษตรกรตามชนิดพืชที่ได้รับสิทธิตามโครงการ ทั้งนี้หากมีความคืบหน้า หรือเปลี่ยนแปลง และขัดข้องประการใด จะรีบแจ้งให้ทราบอย่างต่อเนื่อง