"วราวุธ" ตรวจ "อ่าวมาหยา" สั่งปรับปรุงท่าเทียบเรือ เน้นอนุรักษ์แนวปะการัง

"วราวุธ" ตรวจ "อ่าวมาหยา" สั่งปรับปรุงท่าเทียบเรือ เน้นอนุรักษ์แนวปะการัง

"วราวุธ" ลุยตรวจ "อ่าวมาหยา" สั่งปรับปรุงท่าเทียบเรือ เน้นการอนุรักษ์แนวปะการัง พร้อมรับนักท่องเที่ยวต้นปีหน้า

วันนี้ (14 พ.ย. 64) เวลา 10.30 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะผู้บริหาร ได้เดินทางไปยังหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พพ. 5 (อ่าวมาหยา) หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เพื่อติดตามความคืบหน้าในการเตรียมพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว รวมถึงการอนุรักษ์ฟื้นฟูอ่าวมาหยา 

โอกาสนี้ รมว.ทส. ตรวจสอบการก่อสร้างท่าเทียบเรือบริเวณอ่าวโล๊ะซามะ ซึ่งเป็นจุดรับส่งนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมายังอ่าวมาหยา ซึ่งปัจจุบัน รมว.ทส. ได้ให้ข้อแนะนำในการออกแบบเพื่อให้สามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวได้อย่างสะดวก โดยไม่กระทบกับแนวปะการัง รวมถึงระบบนิเวศโดยรอบ

นอกจากนี้ ยังได้ติดตามการฟื้นตัวของปะการัง ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทำการเพาะเลี้ยงฟื้นฟู จนมีการเจริญเติบโต เมื่อปะการังที่เพาะเลี้ยงสมบูรณ์เต็มที่แล้วจะได้นำลงสู่ทะเลต่อไป อีกทั้ง ยังได้ปลูกต้นจิกทะเลไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย

รมว.ทส. กล่าวว่า “อ่าวมาหยา ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง จนทรัพยากรธรรมชาติเริ่มเสื่อมโทรม โดยเฉพาะปะการัง จากการสั่งปิดอ่าวมาหยา เพื่อให้ธรรมชาติได้พักฟื้นจนถึงตอนนี้ ธรรมชาติเริ่มกลับมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ขณะนี้ อยู่ในช่วงการปรับปรุงท่าเทียบเรือและการกำหนดแนวเขตสำหรับลงเล่นน้ำ เพื่อให้การท่องเที่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากร สามารถพัฒนาควบคู่ไปด้วยกันได้ โดยคาดว่าจะสามารถเปิดอ่าวมาหยาได้ในช่วงต้นปีหน้า”

สำหรับอ่าวมาหยานั้น เป็นเวิ้งอ่าวขนาดเล็กที่ทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงาม เป็นที่รู้จักในระดับโลก โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ทำการปิดให้บริการท่องเที่ยวมาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2561 เป็นต้นมา เพื่อให้ธรรมชาติ ระบบนิเวศทั้งบนฝั่งและใต้ทะเลได้ฟื้นฟู  หลังจาก ได้รับผลกระทบ อย่างหนัก ปะการังเสียหาย พื้นทรายบริเวณชายหาดทรุดตัว  จากกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว มาเป็นระยะเวลานาน  

โดยในระหว่างการปิดอ่าวมาหยานั้น เจ้าหน้าที่ได้เพาะปลูกปะการังใหม่ ประมาณกว่า 10 ไร่  มีการปลูกพันธ์ไม้ป่าพื้นถิ่นเดิม บริเวณบนฝั่ง ชายหาด  เพื่อช่วยยึดหน้าดินป้องกันการพังทลายของเนินทรายหน้าหาด มีการติดตามการกัดเซาะชายหาดต่อเนื่อง ซึ่งพบว่า ขณะนี้ธรรมชาติเริ่มฟื้นตัวกลับมาสมบูรณ์ขึ้น พร้อมรองรับนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่สนใจเดินทางมาสัมผัสความสวยงามของอ่าวมาหยา ที่จะเดินทางมาในอนาคต