"กรมราชทัณฑ์" พบการระบาดโควิด-19 ซ้ำในแดนบางส่วน ที่ทัณฑสถานหญิงสงขลา
"กระทรวงยุติธรรม" เผย สถานการณ์โควิด-19 "กรมราชทัณฑ์" พบการระบาดซ้ำในแดนบางส่วน ที่ทัณฑสถานหญิงสงขลา ขณะที่เรือนจำแพร่ระบาดส่วนใหญ่ควบคุมสถานการณ์ได้ดี มีการดูแลรักษาเป็นระบบแล้ว
เมื่อวันที่ 22 พ.ย.64 ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัด"กระทรวงยุติธรรม" หรือ ศบค.ยธ. ได้มอบหมายให้กรมราชทัณฑ์จัดการประชุมติดตามการดำเนินงานตาม 5 แผนงานการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ Covid-19 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ครั้งที่ 80/2564
โดยมี นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธานการประชุมฯ พร้อมด้วย นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นางสาวศิริประกาย วรปรีชา รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พันตำรวจโท มนตรี บุณยโยธิน รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) ร่วมกับผู้บัญชาการเรือนจำในจังหวัดที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษก ศบค.ยธ. เปิดเผยว่า ภาพรวมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำ/ทัณฑสถานวันนี้ พบการระบาดซ้ำในทัณฑสถานหญิงสงขลา ซึ่งพบในแดนเพียงบางส่วน ส่งผลให้มีจำนวนเรือนจำสีขาวลดลงอยู่ที่ 124 แห่ง และเรือนจำสีแดง 18 แห่ง
โดยเป็นเรือนจำที่อยู่ระหว่างควบคุมการระบาด 8 แห่ง (ระบาดใหม่ 6 แห่ง และระบาดซ้ำในแดนบางส่วน 2 แห่ง) ขณะที่มีจำนวนเรือนจำอยู่ในแผนสิ้นสุดการระบาดของโรค หรือ EXIT แล้วทั้งสิ้น 10 แห่ง ซึ่งจะทยอยพ้นจากการระบาดเพิ่มเติมในระยะต่อไป
ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 553 ราย (พบในเรือนจำสีแดง 535ราย และในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 18 ราย) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ติดเชื้อจากเรือนจำอำเภอกันทรลักษ์ ซึ่งได้รายงานไปแล้วเมื่อวานนี้ ขณะที่มีผู้ติดเชื้อรักษาหายเพิ่ม 682 ราย
โดยไม่มีรายงานการเสียชีวิตในวันนี้ ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 4,760 ราย (กลุ่มสีเขียว 86.2% สีเหลือง 13.7% และสีแดง 0.1%) มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 75,269 ราย หรือ 91.5% ของผู้ติดเชื้อสะสม 82,245 ราย เสียชีวิตสะสม 184 ราย คิดเป็นอัตรา 0.2% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
นายวัลลภ กล่าวต่อว่า ในที่ประชุม ศบค.ยธ.เช้าวันนี้ โดยนายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธานในการประชุม ได้ติดตามสถานการณ์การระบาดและการควบคุมโรคในเรือนจำแพร่ระบาดใหม่ ซึ่งทุกแห่งได้ประสานการดำเนินงานร่วมกับโรงพยาบาลแม่ข่ายและสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อเข้าคัดกรอง ตรวจหาเชื้อ และจ่ายยา ทั้งฟาวิพิราเวียร์ ยาฟ้าทะลายโจร และการรักษาอย่างถูกต้องตามแนวทางการรักษา พร้อมได้กำชับให้เรือนจำและทัณฑสถาน เร่งดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังให้ครบโดสโดยเร็ว ทั้งในส่วนของผู้ต้องขังในเรือนจำที่ยังไม่ติดเชื้อ ผู้ต้องขังที่เคยติดเชื้อแล้ว และผู้ต้องขังรับใหม่จากภายนอก ที่ต้องได้รับวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันจนครบทุกราย
ด้านการบริหารจัดการวัคซีนแก่ผู้ต้องขัง ปัจจุบัน "กรมราชทัณฑ์" ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังไปแล้วทั้งสิ้น 446,757 โดส โดยแบ่งเป็นการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังเข็มที่ 1 จำนวน 260,138 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 177,665 ราย และเข็มที่ 3 จำนวน 8,954 ราย
ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ประจำวันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2564 มีผู้ติดเชื้อและอยู่ระหว่างการรักษาตัว จำนวน 7 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ ๔ ราย และเยาวชน 3 ราย ด้านผลการดำเนินงานสถานพินิจฯ/ศูนย์ฝึกและอบรมฯ สีขาว มีจำนวน 49 แห่ง จากทั้งหมด 56 แห่ง อีก 7 แห่ง แยกเป็นติดเชื้อ 4 แห่ง และหมดสถานะสีขาว 3 แห่ง ขณะที่สถิติการฉีดวัคซีนของเด็กและเยาวชนเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 2,582 ราย หรือคิดเป็น 65.3% จากทั้งหมด 3,954 ราย และเจ้าหน้าที่ได้รับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นจำนวน 3,892 ราย หรือคิดเป็น 92.42% จากทั้งหมด 4,211 ราย