ด่วน ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักรสกัด "โควิดสายพันธุ์โอไมครอน"
เว็บไซต์ "ราชกิจจานุเบกษา" ประกาศเรื่อง การขยายเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร คราวที่ 15 จากการระบาดอย่างรุนแรงขึ้นอีกครั้งจากโควิดสายพันธุ์โอไมครอน
เว็บไซต์ "ราชกิจจานุเบกษา" ประกาศเรื่อง การขยายเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร คราวที่ 15 โดยมีเนื้อหาดังนี้
ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 และได้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินคราวที่ 14 ออกไปจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 นั้น
สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในห้วงเวลาที่ผ่านมา มีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามลำดับ การฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายอย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง กอปรกับรัฐบาลให้ความสำคัญแก่การสร้างความเข้มแข็งให้แก่ระบบสาธารณสุขควบคู่ไปกับการดำเนินมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทำให้ระบบเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
โดยเฉพาะมาตรการเปิดประเทศ อย่างไรก็ดี การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในทวีปยุโรปกลับมามีการระบาดอย่างรุนแรงขึ้นอีกครั้งจาก โควิดสายพันธุ์โอไมครอน ที่ติดเชื้อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์เดลตา ประกอบกับประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการระบาดของเชื้อได้ง่าย และในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะมีการรวมตัวและการเดินทางของประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทยทำให้ปัญหาการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในบริเวณพื้นที่ชายแดนรุนแรงมากขึ้น
กรณีจึงจำเป็นที่จะต้องคงไว้ซึ่งมาตรการในการควบคุมและป้องกันการระบาดของโรคเพื่อความมั่นคงทางสาธารณสุขของชาติและชีวิตประชาชน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีตามมติเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 จึงให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีกคราวหนึ่ง สำหรับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ยังคงมีผลใช้บังคับต่อไปควบคู่กัน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2565
ประกาศ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี