CP ลุยแจก "ฟ้าทลายโจร" หนุนกลุ่มเส้นด้าย

7 ธันวาคม 2564 – เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ปฏิบัติการเดินหน้าสนับสนุนภารกิจมอบยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรต่อเนื่อง ตามเจตนารมย์ของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือฯ ที่ได้ประกาศดำเนินโครงการ "ซีพี ปันปลูก ฟ้าทะลายโจร" ภายใต้แนวคิด ร้อยเรียงความดีซีพี 100 ปี โดยปลูกต้นสมุนไพรฟ้าทะลายโจร 100 ไร่ เพื่อสกัดเป็นยาสมุนไพรแคปซูล 30 ล้านแคปซูล เร่งแจกจ่ายให้ประชาชนเพื่อใช้เป็นยาสามัญประจำบ้านและใช้เสริมภูมิคุ้มกัน

ทั้งนี้ ล่าสุดเครือซีพี โดย ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ  ประธานคณะผู้บริหาร ยุทธศาสตร์ข้อมูลและการสื่อสาร ร่วมเป็นผู้แทนเครือฯ ส่งมอบยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร จำนวน 750,000 แคปซูล หรือ 10,000 กระปุก พร้อมด้วยหน้ากากอนามัยซีพีจำนวน  10,500 ชิ้น เพื่อร่วมสนับสนุนกลุ่มอาสาสมัครเส้นด้าย (Zendai) ในการนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบางทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดณ ศูนย์เส้นด้ายกระจายเส้น พหลโยธิน 11

ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ  ประธานคณะผู้บริหารยุทธศาสตร์ข้อมูลและการสื่อสาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า โครงการ "ซีพี ปันปลูก ฟ้าทะลายโจร"  ได้เริ่มดำเนินการเพาะปลูกต้นฟ้าทะลายโจร ตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคมเป็นต้นมา ซึ่งเป็นวันแม่แห่งชาติ  เพื่อเพิ่มโอกาสให้ประชาชนได้เข้าถึงยาสมุนไพรไทยเพื่อใช้เสริมภูมิคุ้มกันป้องกันโรค ตามนโยบายของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือฯ

ทั้งนี้ ได้เริ่มดำเนินการแจกจ่ายไปยังกลุ่มองค์กรพันธมิตร ภาครัฐ และมูลนิธิต่าง ๆ แล้ว ซึ่งครั้งนี้มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มอบยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรและหน้ากากอนามัยซีพีให้กับกลุ่มจิตอาสาเส้นด้าย  ทีมจิตอาสาที่มีความเสียสละและช่วยเหลือสังคมมาตลอดในช่วงที่ประเทศเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งจะเป็นองค์กรพันธมิตรที่จะนำไปแจกจ่ายถึงมือประชาชนต่อไป

นายคริส โปตระนันทน์ ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มเส้นด้าย เผยว่า ขอขอบคุณเครือซีพีที่ส่งมอบยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร จำนวน 750,000 แคปซูลพร้อมหน้ากากอนามัยซีพี มาสนับสนุนกลุ่มเส้นด้าย โดยทางทีมจะนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบาง แม้ว่าในช่วงนี้สถานการณ์การติดเชื้อจะเริ่มดีขึ้น แต่ยังไว้วางใจไม่ได้เนื่องจากพบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งทำให้เป็นประชาชนเกิดความกังวล

สำหรับการได้รับยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรครั้งนี้จะทำให้ประชาชนอุ่นใจ ใช้เป็นยาสามัญประจำบ้านและเสริมภูมิคุ้มกันได้ ถือว่ามีประโยชน์อย่างมากกับสถานการณ์ในขณะนี้ โดยจะแบ่งการแจกจ่ายให้กับผู้ประชาชนในพื้นที่ที่ยังมีการแพร่ระบาดในกรุงเทพฯ และ 4 จังหวัดชายแดนใต้ (สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) รวมไปถึงจังหวัดเชียงใหม่