โควิด-19 "โอมิครอน" แนวโน้มความรุนแรงเมื่อเทียบกับเดลตา
คืบหน้า "โควิดสายพันธุ์ใหม่" โอมิครอน (Omicron) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ (หมอยง) โพสต์เฟซบุ๊กถึงแนวโน้มความรุนแรงของ โอมิครอน เมื่อเปรียบเทียบกับเดลตา
(8 ธ.ค.2564) คืบหน้า "โควิดสายพันธุ์ใหม่" โอมิครอน (Omicron) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ (หมอยง) หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กถึงแนวโน้มความรุนแรงของ โอมิครอน ชี้ น้อยกว่า สายพันธุ์เดลตา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- โควิด "โอมิครอน" 3 คำถามที่ต้องการคำตอบอย่างเร่งด่วน
- โควิด "โอมิครอน" ไม่รุนแรง แต่ทำไมถึงยังประมาทไม่ได้
- เช็ครายชื่อ 54 ประเทศ/พื้นที่ พบ "โอมิครอน" ทั่วโลก
โควิด-19 "โอมิครอน" (Omicron)
ในอดีตที่ผ่านมาเห็นได้ชัดเมื่อมีสายพันธุ์หนึ่งแพร่กระจายได้เร็วกว่าก็จะเข้ามาแทนที่สายพันธุ์เดิม เราเห็นได้ตั้งแต่สายพันธุ์อัลฟาและสายพันธุ์เดลตา ขณะนี้สายพันธุ์เดลตาทั่วโลกพบถึง 99%
บทเรียนดังกล่าวเห็นได้ชัดจากไข้หวัดใหญ่ ก่อนที่จะมีไข้หวัดใหญ่ 2009 H1N1 ระบาด เรามีไข้หวัดใหญ่ H1N1 ตามฤดูกาลอยู่แล้ว คนละสายพันธุ์กันเลย หลังจากการระบาดไข้หวัดใหญ่ 2009 H1N1 ไข้หวัดใหญ่ H1N1 สายพันธุ์เดิมที่ระบาดก่อนหน้านั้นก็ถูกแทนที่โดยไข้หวัดใหญ่ 2009 H1N1 และไม่พบตัวเดิมอีกเลยจนถึงปัจจุบัน และก็เป็นไปไม่ได้ที่สายพันธุ์ H1N1 จะไปแทนที่ H3N2 หรือ Flu B เพราะเป็นคนละตัวกัน เช่นเดียวกันเชื้อโควิด-19 ก็ไม่สามารถไปแทนที่ไวรัสโคโรนาที่เกิดโรคในเด็ก เช่น OC43 229E เพราะเป็นคนละตัวกัน ทำนองเดียวกัน โอมิครอน ถ้าระบาดง่ายกว่าสายพันธุ์เดิมก็จะเข้ามาแทนที่สายพันธุ์เดลตาเป็นกฎเกณฑ์ธรรมชาติ
ในอดีต เราพัฒนาวัคซีนเชื้อเป็นจากไวรัส เราก็ใช้ไวรัสก่อโรคให้มีการติดเชื้อซ้ำแล้วซ้ำอีก ในเซลล์ทดลองหรือสัตว์ทดลอง เมื่อมีการติดเชื้อซ้ำนานๆ ไวรัสตัวนั้นก็จะอ่อนฤทธิ์ลงแล้วเอามาทำวัคซีนชนิดเชื้อเป็น เพราะการติดเชื้อซ้ำแล้วซ้ำอีก ไวรัสเองก็พยายามปรับตัว ลดการทำร้ายเจ้าถิ่น หรืออ่อนฤทธิ์นั่นเอง
ขณะนี้ จากการพบผู้ป่วยทั่วโลก มีแนวโน้มที่ดี จะเห็นว่าการพบนอกทวีปแอฟริกา ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ นอร์เวย์ เดนมาร์ก ประมาณครึ่งหนึ่งเป็นแบบไม่มีอาการ อีกเกือบครึ่งหนึ่งมีอาการน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับสายพันธุ์เดลตา และก็เช่นเดียวกันในทวีปแอฟริกาตอนใต้ ผู้ป่วยสายพันธุ์โอมิครอน ก็มีแนวโน้มที่จะรับไว้ในโรงพยาบาลน้อยกว่าสายพันธุ์เดิมเดลตา ถ้าทั้งหมดนี้เป็นความจริง (ที่ต้องรอพิสูจน์อีกระยะหนึ่ง) ก็นับว่าเป็นข่าวดี เราก็อยากให้เป็นเช่นนั้น
ถ้าโรคไม่มีรุนแรง และมีการติดเชื้อเป็นจำนวนมาก การติดเชื้อก็เหมือนเป็นการสร้างภูมิต้านทานโดยธรรมชาติ ถึงเวลานั้น ความจำเป็นที่จะต้องใช้วัคซีนก็จะลดลง วัคซีนจะใช้ในกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเป็นแล้วรุนแรง ตลาดของวัคซีน จะได้อยู่ในมือของผู้ซื้อเสียที
ยง ภู่วรวรรณ
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์