5 เทรนด์ใหม่ “ออมทอง” เริ่มได้แบบไหนบ้าง 

5 เทรนด์ใหม่ “ออมทอง” เริ่มได้แบบไหนบ้าง 

เมื่อโควิดยังต้องอยู่กับเราอีกนาน เงินสำรองก็ต้องมี จะการเก็บออมอย่างไร ช่วงปลายปีแบบนี้ ถึงเวลา "เช็คพอร์ต" เริ่มสะสมทอง สำรหรับคนมีงบน้อยได้ง่ายๆ กับ 5 เทรนด์ใหม่ “ออมทอง” พร้อมสู้กับเงินเฟ้อทั่วโลกที่กำลังเพิ่มขึ้นปีหน้า

ในยุคที่โควิดยังอยู่กับเรา จะทำมาหากินอะไรก็ยากลำบาก ทำให้หลายคนเริ่มกลับมาคิดแล้วว่า “การออม”  ช่วยให้เรามีเงินทองเหลือใช้ในยามจำเป็น  

แต่จะเลือกเก็บออม "สินทรัพย์" ประเภทไหนนั้น  เป็นสิ่งที่สำคัญทุกคนต้องพิจารณาในช่วงเวลาที่อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกกำลังเพิ่มขึ้นในปีหน้า  ทำให้ “สินทรัพย์ทางเลือก" ที่น่าสนใจที่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้อย่างดี ยังคง สินค้าโภคภัณฑ์อย่าง “ทองคำ” 

ดังนั้นจะเห็นว่าที่ผ่านมา “นักวิเคราะห์ทางการเงิน”  แนะนำนักลงทุนเสมอว่า ให้ต้องมีสินทรัพย์ทางเลือก อย่าง "ทองคำ"  อย่างน้อยสัดส่วน 5%ของพอร์ตลงทุน เพื่อให้การลงทุนของเรานั้น มีผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อ  

ช่วงโค้งท้ายปีนี้ เป็นโอกาสที่เราจะปรับสัดส่วนการลงทุนใหม่ให้พร้อมรับกับภาวะดังกล่าวเอาไว้ แต่จะให้เริ่มต้นออมด้วยเงินก้อนโต และด้วยราคาทองปัจจุบันยังถือว่าอยู่ในระดับสูง อาจทำให้หลายคนถอดใจเลือกเก็บออมทองคำกันไป 

แต่อย่าเพิ่ง!  “ออมทอง”  มีเทรนด์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์คนมีงบน้อย เริ่มค่อยๆ เก็บสะสม จะมีรูปแบบไหนบ้าง ลองมาดูกัน  

5 เทรนด์ใหม่ “ออมทอง” เริ่มได้แบบไหนบ้าง 

“5 เทรนด์ใหม่ ออมทอง”  ดังนี้  

1.“กระปุกสะสมทอง” 

เม็ดทองคำจิ๋ว 96.5% ขนาดน้ำหนักเริ่มต้น 0.5 กรัม และ 1 กรัม เม็ดขนาดไม่มากไปกว่าครึ่งเซนติเมตร  
ราคาเริ่มต้นประมาณ 950 บาท (ขึ้นอยู่กับราคาทอง ณ วันนั้น)
จุดเด่น :  เม็ดทองไม่ต้องใช้พิมพ์ทำให้ค่าแรงต่อชิ้นถูกลง เหมาะแก่การลงทุน ทยอยซื้อเก็บสะดวก หากต้องการใช้เงินสามารถแบ่งขายได้

 

2.“การ์ดของขวัญทองแผ่น”  

ทองคำแท่งแบบแผ่น 96.5% ขนาดน้ำหนักเริ่มต้น 0.1 ถึง 1 กรัม 
ราคาเริ่มต้น 1,000 บาท  ที่มีความบางมากๆ ราคาก็อยู่ที่หลักร้อย หลักพัน 
จุดเด่น :  มีหลากหลายลวดลายบนแผ่นทอง  ส่วนมากจะซื้อให้เป็นของขวัญ หรือเก็บเป็นที่ระลึกมากกว่า 

ทำความรู้จักกับ “ทองคำ 96.5%”  เป็นทองคำเช่นเดียวกับ ทองคำแท่ง ทองแผ่น ต่างๆ นั่นเอง หรือ ตามเทคนิคแล้วก็คือ ทองคำ 96.5% ล้วนๆ มาตรฐานทองไทย กำหนดโดย สคบ.  

3. “แอปออมทอง” 

ไม่ต้องมีเงินก้อน เป็นการทะยอยสะสมเงินเพื่อซื้อทอง และเมื่อครบตามราคาทอง สามารถนำไปแลกทองคำได้ทันที           ด้วยการเปิดบัญชีออนไลน์  ออมได้ตลอด 24 ชั่วโมง  ราคาเรียลไทม์ 
ใช้เงินลงทุนขั้นต่ำ 10 บาท  เมื่อออมทองครบ 1 กรัมสามารถนำไปแลกทองคำได้และสามารถสั่งขายทองคำเพื่อรับเป็นเงินสดเข้าพอร์ตได้ด้วย  
จุดเด่น :  มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกออมทอง ตามงบในกระเป๋า
ออมทองรายวัน เริ่มต้นวันละ 10 บาท 
ออมทองแบบรายเดือนหักบัญชีอัตโนมัติ  ขั้นต่ำ 1,000 บาท 
ออมทอง เลือกเวลาและวันซื้อได้เอง ขั้นต่ำ 1,000 บาท
ออมทองรอบ12 เดือน ขั้นต่ำเริ่มต้น 1,500 บาทขึ้นไป 

4. “คริปโท ทองคำ” 
คริปโท ทองคำ หรือ  โกลด์ คอยน์ ถือเป็นสินทรัพย์ที่มีหลักประกัน เป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้ 
ปัจจุบัน โกลด์ คอยน์ ที่มีการซื้อขายกันในตลาดมีมากกว่า 100เหรียญ  แต่ก็ไม่มากเมื่อเทียบกับ เหรียญคริปโทอื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาด ทำให้มีสภาพคล่องต่ำ เพราะมีการแลกเปลี่ยนกันไม่มาก และจะต้องตรวจสอบหลักฐานการสำรองทองคำ ว่ามีอยู่จริงหรือไม่

จุดเด่น :  ระยะหลัง นักลงทุนให้ความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนที่ต้องการป้องกันพอร์ตการลงทุน จากสกุลเงิน fiat ที่อ่อนค่าลง หรือ เหรียญคริปโท อื่น ๆ ที่ความผันผวนสูง

ข้อมูลจาก oobit.com ระบุว่า  Gold-Backed Cryptocurrency ที่มีเสถียรภาพในตลาด 5 อันดับ ได้แก่ 

1.  Perth Mint Gold Token (PMGT)
2.  Gold Coin (GLC)
3. Pax Gold (PAXG)
4. DigixGlobal (DGX)
5. Tether Gold (XAUT)

 

5. “ผ่อนทองกับบัตรเครดิต" 
การรูดซื้อ “ทอง” ได้รับความนิยมมากขึ้น  เพราะเหมือนกับการรูด ซื้อสินค้าทั่วไป  แล้วผ่อนจ่ายคืนผ่านทองธนาคาร โดยเราจะได้รับทองคำก่อนแล้วผ่อนจ่ายทีหลัง บางช่วงจะมีแคมเปญหรือสิทธิประโยชน์ของบัตรฯ ใบนั้นๆ แน่นอนว่า โปรโมชั่นดอกเบี้ยพิเศษ 0% ทำให้เราซื้อทองคำตามที่เราต้องการได้ แต่ต้องระวังการใช้วงเงินในบัตรเครดิต  

จุดเด่น : เหมาะกับคนที่มีเงินเดือนประจำ อีกทั้งช่วยให้คนที่มีวินัยทางการเงิน เริ่มเก็บออมทองได้ 

 

ลงทุนทองคำไม่ว่ารูปแบบไหน "เป็นเรื่องที่ดี" 

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นเเนล จำกัด (YLG) มองว่า การลงทุนในทองคำเป็นเรื่องที่ดีไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในรูปแบบใด

การลงทุนในทองคำเม็ดก็เปรียบเหมือนการซื้อทองคำแท่งขนาดเล็ก ที่ก็มีจำหน่ายอยู่โดยทั่วไป เพียงแต่ลักษณะทางกายภาพต่างกันจากแท่งขนาดเล็กเป็นเม็ดขนาดเล็ก ซึ่งในส่วนของทองคำแท่งขนาดเล็กนั้น YLG เองถือว่าเป็นผู้บุกเบิกการออกแบบสินค้าทองคำแท่งขนาดเล็กที่มีน้ำหนักเริ่มต้นเพียง 0.5 กรัม เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าถึงของผู้ที่ต้องการซื้อสะสมหรือมอบเป็นของขวัญที่เปี่ยมด้วยมูลค่า

และทาง YLG ยังได้ออกแบบแพกเก็จจิ้งเพื่อดึงดูดให้น่าสะสมยิ่งขึ้น ในรูปแบบของการ์ดคอลเล็กชั่นต่างๆ เช่น My Best Friend Cat & Dog และคอลเล็กชั่นตามเทศกาลต่างๆ อาทิ คริสต์มาส ปีใหม่ เทศกาลแห่งความรัก ฯลฯ ก็สามารถที่จะเลือกซื้อทองเป็นของขวัญให้กับคนพิเศษได้ในทุกโอกาส


อย่างไรก็ดีมองว่าการสะสมทองคำจากจำนวนเล็กๆนี้ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการออม ซึ่งสามารถต่อยอดไปสู่การลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่งในอนาคตได้ 

ทั้งนี้ ปัจจุบันการออมทองคำนั้นยังมีอีกรูปแบบหนึ่งคือการออมทองคำแบบออนไลน์ ซึ่งข้อดีของการออมทองคำแท่งแบบออนไลน์คือ ใช้เงินลงทุนน้อยกว่าการออมทองคำแบบปกติ โดยไม่จำเป็นต้องซื้อเป็นทองคำแท่ง เช่นโปรแกรมออมทอง YLG GOLD SAVING ที่ใช้เงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 100 บาท สามารถเลือกออมได้ทั้งทองคำ 96.50% หรือ 99.99% และสามารถออกแบบวิธีออมได้เช่น จะออมทุกวันหรือหักบัญชีรายเดือนก็สามารถเลือกได้ โดยสามารถซื้อ-ขายผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ ตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งการออมแบบออนไลน์ ผู้ออมจะประหยัดต้นทุนค่าบล็อก เพราะปกติทองคำกายภาพนั้นจะมีค่าบล็อกที่เป็นต้นทุนในการผลิตทองคำแท่ง นอกจากนี้เมื่อผู้ออมทำการออมไปจนครบจำนวน 1 กรัมขึ้นไป ก็สามารถไถ่ถอนทองคำออกไปเก็บไว้ได้ โดยสามารถเลือกว่าจะมารับด้วยตนเองหรือเลือกบริการส่งทองให้ถึงที่บ้านทางไปรษณีย์ หรือจะเลือกขายและรับเป็นเงินสดก็สามารถทำได้

ทั้งนี้ YLG ยังมองว่าการออมทองคำนั้นไม่ได้เป็นเพียงทางเลือกการเก็บออมเงินเท่านั้น แต่ยังเป็นการป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย รวมถึงทองคำมีคุณสมบัติพิเศษคือมีสภาพคล่องสูงสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ง่าย และให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูงจากข้อมูลย้อนหลัง 2 ปี พบว่าปี 2562ทองคำให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 18.33% และปี 2563 ให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 24.98%