MSIG ผนึกพันธมิตร ปลุกตลาดประกันรถบรรทุก ตั้งเป้า 3 ปี 5 หมื่นกรมธรรม์
เอ็ม เอส ไอ จี จับมือ พนัส แอสเซมบลีย์ และ เอไอเอส เปิดตัว ‘พนัสแคร์’ มิติใหม่ของประกันภัยรถบรรทุกเชิงพาณิชย์ ขับดีมีเฮ รับผลประโยชน์เพิ่มสูงสุด 50% ของเบี้ยประกันเมื่อสิ้นสุดปีกรมธรรม์ ตั้งเป้า 3 ปี 50,000 กรมธรรม์ ชู ‘Panus GPS Tracker’ จับพฤติกรรมการขับขี่ของสิงห์รถบรรทุก
นายรัฐพล กิติศักดิ์ไชยกุล กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MSIG เปิดเผยว่า บริษัท ร่วมมือกับ พนัส แอสเซมบลีย์ และเอไอเอส เปิดตัวประกันภัยสุดล้ำ‘พนัสแคร์’ ประกันรถรูปแบบใหม่ สำหรับรถบรรทุกเชิงพาณิชย์ที่ส่งเสริมคนขับรถดี และเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน
สำหรับพนัสแคร์ในเฟสแรก จะเป็นประกันภัยชั้น 1 สำหรับรถบรรทุกเชิงพาณิชย์ ที่สามารถทำประกันภัยได้ทั้งหัวลากและหางพ่วง โดยให้ความคุ้มครองรถที่มีอายุตั้งแต่ 1-10 ปี ครอบคลุมความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก ความเสียหายต่อรถยนต์ คุ้มครองกรณีรถสูญหาย ไฟไหม้น้ำท่วมอีกด้วย
พนัสแคร์ มีความแตกต่างจากประกันชั้น 1 ทั่วไป ตรงที่สามารถจับค่าพฤติกรรมการขับขี่จริง ได้แก่ ระยะทางต่อวัน (กิโลเมตร) ความเร็วสูงสุดต่อวัน (กิโลเมตร/ชั่วโมง) ระยะเวลาที่ขับรถต่อเนื่อง (ชั่วโมง) มาแปลงเป็นคะแนน โดยเราได้รับค่าพฤติกรรมการขับขี่จาก Panus GPS Tracker ผ่านโครงข่ายสัญญาณคุณภาพจากเอไอเอสไปยัง Clouds Server ของ TOD ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Panus Group และส่งค่าผ่านมายัง server ของเอ็ม เอส ไอ จี โดยมีการแสดงผลให้ผู้เอาประกันภัยทราบผ่าน Panus Mobility Dashboard
ทางเอ็ม เอส ไอ จี จะนำข้อมูลการขับขี่ทั้งหมดในรอบ 1 ปี มาประมวลผลร่วมกับอัตราความเสียหาย (Loss Ratio) เพื่อคำนวณผลประโยชน์เพิ่มเติมให้กับผู้เอาประกันภัยเมื่อสิ้นสุดปีกรมธรรม์ สูงสุดถึง 50% ของเบี้ยประกันภัย และในปีกรมธรรม์ถัดไป หากไม่มีการเรียกร้องสินไหมในปีที่ผ่านมา ผู้เอาประกันภัยยังมีสิทธิได้รับส่วนลดประวัติดีเป็นต่อที่ 2 อีกด้วย
นายพนัส วัฒนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันเรามีลูกค้าที่สนใจลงชื่อจองซื้อประกันพนัสแคร์แล้วเกือบ 5,000 ราย ส่วนเป้าหมาย เราตั้งเป้าปีแรกอยู่ที่ 10,000 กรมธรรม์ และ 50,000 กรมธรรม์ภายใน 3 ปี
“พนัส แอสเซมบลีย์" ดำเนินธุรกิจผลิตรถพ่วงและกึ่งพ่วงมานานเกือบ 50 ปีแล้ว และเราเป็นเบอร์ 1 ของธุรกิจนี้ โดยในปี 2564 บริษัทมีรถออกไปสู่ตลาดในปีนี้ ปัจจุบันประมาณ 3,000 กว่าคัน ได้แก่ รถกึ่งพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ รถกึ่งพ่วงพื้นเรียบบรรทุกตู้สินค้า รถกระบะบรรทุกยกเท รถพ่วงกระบะบรรทุก เป็นต้น
และในปี 2565 ทางพนัส แอสเซมบลีย์ ยังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจเดิมที่ทำ แต่ได้เพิ่มฟังก์ชั่นและฟีเจอร์หลายอย่างของยานยนต์สมัยใหม่เข้าไป โดยมุ่งเน้นที่ยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่และพลังงานทดแทนต่างๆ รวมถึงแพลตฟอร์มที่สามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาประยุกต์เพื่อให้ลูกค้าของพนัสสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น อีกอย่างที่สำคัญมากเราต้องการประกันภัยที่ไม่เหมือนเดิมต่อยอดธุรกิจของพนัสให้สามารถตอบสนองความต้องการและเพิ่มการดูแลลูกค้าให้ครบวงจรมากขึ้น”
นอกจากนี้ พนัส แอสเซมบลีย์ มีหน่วยงานชื่อ พนัส โมบิลิตี้ ทำหน้าที่สรรหานวัตกรรมใหม่ๆ ที่เพิ่มคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์ และมีความสนใจในประกันขับดีที่เอ็ม เอส ไอ จี ร่วมมือกับเอไอเอส จึงได้ติดต่อเพื่อขอพัฒนาประกันพนัสแคร์ร่วมกัน ทางพนัสมีอุปกรณ์เทคโนโลยีอัจฉริยะที่เรียกว่า Panus GPS Tracker โดยผู้เอาประกันภัยพนัสแคร์จะได้รับTracker รุ่น MBT1 เพื่อติดที่หัวลาก และ Smart Trailer
สำหรับหางพ่วง นอกจาก Panus GPS Tracker จะทำหน้าที่บอกพิกัดต่างๆ แล้ว อุปกรณ์นี้ยังสามารถเก็บค่าพฤติกรรมการขับขี่ที่แท้จริงได้ พร้อมส่งค่าเพื่อประมวลผล และคำนวณคืนผลประโยชน์เพิ่มเติมให้กับผู้เอาประกันภัย ผมเชื่อว่าถ้าเราขับรถอยู่ในความเร็วคงที่ ไม่เร็วเกินไป มีการซ่อมบำรุงรักษารถตามกติกา อุบัติเหตุบนท้องถนนจะน้อยลง และส่งผลทำให้ต้นทุนการขนส่งสินค้าลดลงไปด้วย
" พนัสแคร์จึงเป็นประกันภัยสำหรับรถบรรทุกเชิงพาณิชย์ที่ร่วมสร้างสังคม คนขับรถดี และเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนนได้ สำหรับกลุ่มเป้าหมายของพนัสแคร์คือ ผู้ประกอบการกลุ่มโลจิสติกส์ทั้งรายใหญ่และรายย่อยที่เป็นลูกค้าของบริษัท อยู่แล้วและมีการเปิดใช้งาน GPS กับรถเทรลเลอร์อยู่ รวมถึงรายใหม่ๆ ที่สนใจ โดยเราจะนำเสนอพนัสแคร์เข้าไปเสริมทัพสร้างความอุ่นใจให้คนขับรถบรรทุกผ่านทีมงานขายมืออาชีพของพนัสแคร์ที่มีอยู่ทั่วประเทศ"
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์
