ผู้ลี้ภัยกว่า 2 พันทะลักหนีการสู้รบเข้าเขตไทย

เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 64 สถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารรัฐบาลเมียนมา กับทหารกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง(เคเอ็นยู.) ยังคงสู้รบกันอย่างต่อเนื่องและรุนแรงกว่าเดิม นอกจากการขยายพื้นที่การสู้รบไปยังพื้นที่ไปยังด้านใต้ จ.เมียวดี ตรงข้าม บ้านแม่กุใหม่ท่าซุง ต.แม่กุ บ้านแม่โกนเกน บ้านห้วยมหาวงศ์ ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลให้ราษฎรเมียนมาจากบ้านผาลูใหญ่ บ้านผาลูน้อย บ้านเลเตอก่อได้อพยพทยอยข้ามมาที่บริเวณคอกวัวมหาวันท่าเมยโค้ง หมู่ที่ 9 บ้านห้วยมหาวงค์ ต.มหาวัน จำนวนกว่า 2,000 คน

สำหรับการผู้ลี้ภัยจากการสู้รบที่โรงเรียนแม่ตาวมิตรภาพ ที่ทางฝ่ายไทยส่งกลับไปนั้น ขณะนี้ทางทหารกะเหรี่ยงบีจีเอฟ.ได้รับไว้ จำนวน 132 คน หลังจากฝ่ายไทยได้ประสานฝ่ายเมียนมาผ่านคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมาส่วนท้องถิ่น (ทีบีซี) จะส่งผู้ลี้ภัยที่สมัครใจกลับให้ทางการเมียนมา และฝ่ายเมียนมาแจ้งกลับมาว่าส่งไปได้ แต่ไม่รับประกันในความปลอดภัย ซึ่งทหารบีจีเอฟ.ได้ดูแลให้อาหาร น้ำดื่มแก่ผู้ลี้ภัยที่กลับไป

ด้านศูนย์สั่งการชายแดน ไทย- เมียนมา จังหวัดตาก ได้ออกเอกสารแถลงถึงสถานการณ์ชายแดนพื้นที่ จังหวัดตาก เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2564 ถึงสถานการณ์การสู้รบด้านใต้จังหวัดเมียวดีว่า ได้เกิดการปะทะระหว่างทหารเมียนมา กับ กองกำลังชนกลุ่มน้อยเมียนมา ลึกจากชายแดนเมียนมา 500 เมตรจากการปะทะกันดังกล่าวส่งผลให้มีกระสุนไม่ทราบชนิดและไม่ทราบฝ่าย จำนวน 7 นัด ตกลงบริเวณริมแม่น้ำเมยของฝั่งไทย ไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนคนไทยในพื้นที่ ขณะที่กองกำลังนเรศวรได้สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่14 อ.แม่สอด ทำการยิงเตือนด้วยกระสุนควัน จำนวน 5 นัดในห้วงเวลาดังกล่าว เพื่อเป็นการแจ้งเตือนไม่มีกระสุนล้ำเข้ามาตกในเขตไทยอีก และทำการประท้วงไปยังฝ่ายเมียนมาผ่านช่องทางทีบีซี.แล้ว

ศูนย์สั่งการชายแดน ไทย-เมียนมา จังหวัดตาก ระบุว่า เมื่อวานที่ผ่านมา (19 ธ.ค. 64) มีผู้ลี้ภัยที่โรงเรียนชุมชนบ้านแม่ตาวมิตรภาพ หรือแม่ตาวกลาง ต.แม่ตาว สมัครใจเดินทางกลับทั้งหมด จำนวน 332 คน เนื่องจากคลายกังวลในสถานการณ์ และต้องการกลับไปใช้วิถีชีวิตปกติในฝั่งประเทศเมียนมา และขณะนี้มีผู้ลี้ภัยยังคงอยู่ในโรงเรียนมิตรภาพแม่ตาวกลาง จำนวน 2,106 คน