"เมียนมา" ส่งฮ.ถล่ม "กะเหรี่ยงเคเอ็นยู"
ทหารรัฐบาล "เมียนมา" ส่งส่งเฮลิคอปเตอร์ ถล่มกองกำลังฝ่ายต้านในรัฐ "กะเหรี่ยงเคเอ็นยู" ด้านศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา เผยมีผู้ลี้ภัยจำนวน 3,776 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 5 แห่งในพื้นที่ ต.แม่ตาว ต.แม่กุ และต.มหาวัน จ.ตาก
เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู.) หรือ "กะเหรี่ยงเคเอ็นยู" กองพลน้อยที่ 6 กับทหารรัฐบาลเมียนมา ในพื้นที่อ.แม่สอด จ.ตาก ว่าทหารเมียนมายังคงปฏิบัติการทางอากาศอย่างต่อเนื่อง และไม่ลดละความพยายามที่จะยึดที่มั่นของฝ่ายเคเอ็นยู.
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.20 น. ทหารเมียนมาส่งเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์จำนวน 2 ลำเข้าโจมตีที่บ้านโซซิเมี่ยน ตรงข้ามบ้านแม่กุใหม่ท่าซุง ต.แม่กุ โดยยิงปืนจากทางอากาศลงใส่ที่มั่นฝ่ายกะเหรี่ยง และหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยง แต่ไม่มีราษฎรได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต เพราะหนีภัยสงครามเข้ามาเขตไทยก่อนแล้ว นอกจากการโจมตีทางอากาศแล้ว ฝ่ายเมียนมาส่งกำลังทหารเข้ามาปะทะกับฝ่ายเคเอ็นยู. มีการยิงกันด้วยอาวุธประจำกาย ปืนกล.93 และปืนอาร์พีจี.
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อ.แม่สอด จ.ตาก ว่า ในช่วงเช้าวันนี้ ทหารเคเอ็นยู.ได้เข้ายึด และเคลียร์พื้นที่แม่วาคี ซึ่งเป็นจุดตรวจ และฐานที่มั่นแห่งแรกก่อนเข้าบ้านเลเตอก่อ ประมาณ 1.5 กม. ตรงข้ามบ้านดอนชัย ต.แม่ตาว หลังจากฝ่ายเคเอ็นยู.โดยส่งกำลังทหารเข้าไปโจมตีจนมีการปะทะกับฝ่ายเมียนมาอย่างหนัก ผลจากการสู้รบฝ่ายทหารเคเอ็นยู. และกองกำลังพีดีเอฟ.เสียชีวิต 2 นาย ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก สำหรับที่มั่นแม่วาคี เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่ดีจุดหนึ่ง และถูกฝ่ายทหารเมียนมายึดไปเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2564 ฝ่ายกะเหรี่ยงจึงพยายามยึดที่มั่นแห่งนี้คืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเมียนมาพยายามนำผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 3 นาย และขอข้ามแม่น้ำเมยมายังเขตไทย ทางด้าน ต.มหาวัน อ.แม่สอด เพื่อนำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลแม่สอด โดยผ่านทางพลเรือนกะเหรี่ยงในพื้นที่ เพราะว่าฝ่ายทหารไม่สามารถข้ามมาได้
ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก ได้ออกเอกสารสถานการณ์ชายแดนพื้นที่ จ.ตาก เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2564 ระบุว่า การสู้รบไม่ส่งผลกระทบต่อราษฎรไทยตามแนวชายแดน จ.ตาก และมีผู้ลี้ภัยจำนวน 3,776 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 5 แห่งในพื้นที่ ต.แม่ตาว ต.แม่กุ และต.มหาวัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ไทยให้การดูแลเป็นอย่างดี พร้อมทั้งมีมาตรการป้องกันการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19