ลามหนัก คลัสเตอร์โรงเรียนสอนคนตาบอด ติดเชื้อเพิ่มอีก 12 ราย
พบ คลัสเตอร์โรงเรียนสอนคนตาบอด นักเรียน-ครู-พี่เลี้ยง ติดเชื้อรวม 12 ราย ด้าน รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ เร่งระดมทีมแพทย์และพยาบาลเข้าติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด เบื้องต้นแยกกักตัวแบบ Home Isolation แล้ว
ผศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า โรงพยาบาลฯได้รับแจ้งจากทางสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ว่าพบ "คลัสเตอร์โรงเรียนสอนคนตาบอด" ซึ่งเป็นเด็กในความดูแลของโรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือ (เชียงใหม่) มีผลตรวจ ATK เป็นบวก โดยเป็นการตรวจหลังจากวันพุธที่ 26 ม.ค.65 ที่ผ่านมา
ซึ่งพบว่าเด็กมีอาการไข้ หนาว ปวดศีรษะ จำนวน 2 ราย หลังรับแจ้งทางทีมศูนย์สร้างเสริมสุขภาพของโรงพยาบาลมหาราชฯ จึงส่งทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ลงพื้นที่ทันที ในช่วงเย็นของวันที่ 28 ม.ค. 65 เพื่อติดตามดูแลควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
เบื้องต้นได้แยกเด็ก 2 รายที่มีผลตรวจ ATK เป็นบวกดังกล่าว ออกไปกักตัวในห้องที่เตรียมไว้ และได้ทำการรักษาในระบบ Home Isolation คือการกักตัวที่บ้านโดยใช้พื้นที่ของโรงเรียน ซึ่งโดยปกติโรงเรียนสอนคนตาบอดแห่งนี้เป็นโรงเรียนประจำ (กินนอน) อยู่แล้ว ดังนั้นจึงค่อนข้างสะดวกในการจัดการรักษาแบบแยกกักตัว (Home Isolation) เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อได้ง่าย
ล่าสุดจากการตรวจคัดกรองเพิ่มเติม ในส่วนของกลุ่มสัมผัสเสี่ยงในพื้นที่โรงเรียน เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 65 พบว่ามีเด็ก (พิการตาบอด) ที่อยู่ในโรงเรียนประจำนี้มีผลตรวจเป็นบวกอีกจำนวน 10 ราย ครูผู้สอน 1 ราย ครูพี่เลี้ยง 1 ราย รวมทั้งสิ้น 12 ราย
"โดยพื้นฐานการดำเนินชีวิตประจำวันแล้ว ผู้ที่ตาบอดต้องอาศัยการใช้มือลูบคลำสัมผัสสิ่งต่างๆ มากกว่าคนปกติ ทำให้มีการสัมผัสพื้นผิวบ่อย จึงมีโอกาสติดเชื้อค่อนข้างง่าย เมื่อมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากในลักษณะนี้จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทางโรงพยาบาลมหาราชฯ ต้องรีบลงพื้นที่ เพื่อดูแลผู้ป่วยเป็นกรณีพิเศษเพราะผู้ป่วยเหล่านี้ส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องการมองเห็น โดยทางผู้อำนวยการโรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือจึงได้ทำการปิดทำการโรงเรียนไปก่อนในเบื้องต้น" ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ กล่าว
สำหรับนักเรียนที่นอนอยู่ในโรงเรียน ได้ทำการแยกผู้ที่ป่วยและไม่ป่วยออกจากกัน ทีมีการใช้ระบบการติดตามดูแลแบบแพทย์ทางไกล ในการที่จะประสานงาน เข้าไปยังพี่เลี้ยงและครู ผู้ดูแลเด็กๆ มีการให้คำปรึกษาต่างๆ มีการติดตามดูแลอาการ อาทิ การวัดไข้ วัดปริมาณออกซิเจนในเลือด เพื่อส่งข้อมูลกลับเข้ามาในระบบ รวมถึงการประสานงานกับกุมารแพทย์ในการให้การดูแลแบบแพทย์ทางไกล เพื่อที่จะประเมินและดูแลผู้ป่วยเป็นระยะๆ ทุกวัน ตลอดระยะเวลาของการดูแลผู้ป่วยแต่ละรายซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 10 วัน
อย่างไรก็ตามในขณะนี้สถานการณ์ของคลัสเตอร์ดังกล่าว ยังอยู่ในช่วงที่เรากำลังเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ มุ่งมั่นในการให้การดูแลอย่างเต็มที่ เนื่องจากผู้ป่วยตาบอดนั้นมีความเสี่ยงอย่างยิ่งในการติดเชื้อ และอาจจะมีเปอร์เซ็นต์ของการติดเชื้อได้ง่ายมาก แต่เราก็มั่นใจว่าผู้ป่วยเหล่านี้อาการไม่น่าเป็นห่วงมากนัก เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่ ได้รับวัคซีนตามแผนการให้วัคซีนของกระทรวงสาธารณสุข และมีทีมแพทย์ พยาบาลให้การดูแลอย่างใกล้ชิด เชื่อว่าจะทำให้สถานการณ์ผ่านพ้นไปด้วยดี
ข่าวโดย สกาวรัตน์ ศิริมา จ.เชียงใหม่