เกษตรกรชาวสวนปาล์ม จี้รัฐเร่งแก้ปัญหาปาล์มน้ำมัน

เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 65 นายชัยฤทธิ์ ถ่ายย้วน นายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจ.ตรัง ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ว่า ในการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันที่เกิดจากนโยบายรัฐ ทั้งเรื่องการอนุมัติเปิดด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลา เปิดช่องให้มีการขนน้ำมันผ่านแดนจากมาเลเซียไปประเทศลาว ส่งผลทำให้ราคาปาล์มน้ำมันผันผวนลดลงจากราคาประมาณ 12 บาท ขณะนี้เหลือกิโลกรัมละ 7 บาท

กรณีรัฐมนตรีว่ากระทรวงพลังงานล้มน้ำมันบี10 เหลือน้ำมันบี5 เนื่องจากก่อนหน้านี้รัฐบาลมีการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกปาล์มน้ำมันเป็นพืชพลังงานและได้กำหนดให้ ใช้บี10 เป็นพลังงานพื้นฐานของประเทศตามกระแสโลก และมีการส่งเสริมตามยุทธศาสตร์การปฏิรูปปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มทั้งระบบ ปี 2560-2579 ที่กำหนดเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ปลูกจาก 4.81-5.23 ล้านไร่ เป็น 6.6-7.23 ล้านไร่ ในปี 2579 การเพิ่มเปอร์เซ็นต์การสกัดน้ำมันปาล์มดิบจากร้อยละ 17 เป็นร้อยละ 22 ในปี 2560-2569 เพิ่มผลผลิตต่อไร่ จากเดิม 2.59 ตันต่อไร่ เป็น 3.50 ตันต่อไร่ ภายในปี 2579

ซึ่งจะทำให้มีปริมาณผลปาล์มเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ซึ่งสวนทางกับนโยบายของรัฐขณะนี้ที่พยายามลดพลังงานพื้นฐานของประเทศให้เหลือบี5กังวลว่าราคาในอนาคตจะลดลงมากไม่คุ้มกับค่าลงทุน ซึ่งทั้ง2เรื่องดังกล่าว ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ที่มีพล.อ.ประวิทย์ วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน และปัญหาความเดือดร้อนเรื่องปุ๋ยราคาแพงที่ขณะนี้ปรับราคาขึ้นสูงกว่า100 %ทุกชนิด ทำให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

ซึ่งในส่วนของตัวแทนชาวสวนปาล์มน้ำมันจ.ตรัง แบ่งการเคลื่อนไหวออกเป็น2ชุด ที่จะเคลื่อนไหวพร้อมกันในวันพรุ่งนี้ (8ก.พ.) โดยตนเองเดินทางขึ้นกรุงเทพฯ เพื่อจะเข้ายื่นหนังสือต่อประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการบริหารจัดการปาล์มน้ำมันอย่างเป็นระบบและยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้เร่งแก้ปัญหา ส่วนอีกชุดจะเดินทางเข้าร่วมเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนปาล์มภาคใต้ทโรงแรมสยามธานี จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อกำหนดท่าทียกระดับการเรียกร้อง เพราะที่ผ่านมารัฐบาลไม่ยอมฟังเสียงของเกษตรกร

ทั้งนี้ ในส่วนของหนังสือที่จะยื่นต่อประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการบริหารจัดการปาล์มน้ำมันอย่างเป็นระบบและยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์มีมีข้อเรียกร้องทั้งหมด4ข้อ หากไม่ได้รับการตอบสนอง พร้อมร่วมยกระดับการเคลื่อนไหวร่วมกับชาวสวนปาล์มทั่วประเทศ คือ

1.ขอให้ช่วยติดตามราคาปุ๋ยที่เป็นธรรมและสอดคล้องกับข้อเท็จจริง

 2.ขอให้ติดตามเรื่องราคาผลปาล์มที่สอดคล้องกับราคาตลาดโลกและโครงสร้างราคา

 3.ขอคัดค้านนโยบายการลดสัดส่วนน้ำมันดีเซลพื้นฐานจากบี10 เหลือบี5 ของกระทรวงพลังงาน และสนับสนุนการใช้บี10เป็นพลังงานพื้นฐานของประเทศตามกระแสโลกคงเดิม

4.ขอให้คัดค้านการนำเข้าผ่านแดนจากประเทศมาเลเซียผ่านด่านสะเดา