"โควิด-19" ชัยภูมิ นิวไฮเสียชีวิตพุ่ง-ป่วยทะลุวันกว่า 313 ราย

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 65 สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จ.ชัยภูมิ นายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ และโฆษกคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 (สายพันธุ์โอมิครอน) ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ เพียงช่วงต้นปี 2565 เกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา มีการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นรายวันมาต่อเนื่อง ล่าสุด วันนี้ทำนิวไฮทะลุเป้าพบป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นอีกกว่า 313 ราย แยกเป็นในจังหวัด 300 ราย นอกจังหวัด 13 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นวันนี้อีก 1 ราย รวมสะสมล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 144 ราย/ศพ ยอดป่วยสะสมแล้ว 17,556 ราย รักษาตัวอยู่ 2,057 ราย

ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่ผู้ที่เสียชีวิตมีประวัติกลุ่มเสี่ยงยังไม่ฉีดวัคซีนและมีโรคประจำตัว และสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่ขณะนี้ อยากฝากเตือนเน้นย้ำไปถึงประชาชนทุกพื้นที่อาจจะมีความเข้าใจผิดว่าติดเชื้อโอมิครอนไม่เป็นอะไรมาก ซึ่งขณะนี้มีตัวอย่างให้เห็นแล้วว่า หากติดเชื้อแล้วมีโอกาสเสียชีวิตในกลุ่มเสี่ยงสูงที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน และกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัว ซึ่งเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โคมิครอนติดง่ายกว่าทุกครั้ง ซึ่ง จ.ชัยภูมิ มีประชากรเกือบ 1.2 ล้านคน มีผุ้รับการฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 62 % หรือเกือบ 6 แสนคน แต่ส่วนที่เหลือยังไม่ได้ฉีดวัคซีนอีกเกือบ 6 แสนคน ซึ่งยังเนกลุ่มเสี่ยงที่ป่วยแล้วจะเกิดการสูญเสียชีวิตอีกจำนวนมากได้

และอยากฝากเตือนกลุ่มเสี่ยงในหลายพื้นที่ขณะนี้ในหลายพื้นที่อีกหลายพันคน ที่รู้ว่าตัวเองเป็นกลุ่มเสี่ยง และไม่ยอมกักตัวอย่างจริงจัง ยังออกไปพบปะญาติเพื่อนบ้าน ระหว่างรอผลตรวจของตัวเองอยู่ที่บ้าน แต่มีการออกไปพบปะคนในชุมชน ซึ่งพอผ่านไปช่วง 3-7 วันทาง ทางแพทย์โรงพยาบาลโทรไปแจ้งว่าผลตรวจท่านพบติดเชื้อในกรณีนี้

“ก็ยิ่งทำให้มีการไปสร้างกลุ่มเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่องอีกไม่หยุด ในการที่จะไปแพร่เชื้อกระจายต่อๆอีกหลายทอดในกลุ่มก้อนขนาดใหญ่เป็นวงกว้างมากขึ้นในขณะนี้ด้วย ซึ่งยังทำยอดมีผู้ป่วยโควิด-19 ของ จ.ชัยภูมิ ยังพุ่งสูงไม่หยุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่มีการระบาดในจังหวัดมาในขณะนี้ด้วย”

ซึ่งทางจังหวัดไม่อยากใช้มาตรการรุนแรง ที่ขณะนี้ในกลุ่มเสี่ยงใน 2 อำเภอ ที่ อ.เมืองชัยภูมิ และ อ.ภูเขียว ซึ่งมีการสั่งปิดโรงเรียนสถานศึกษาทุกแห่งไว้ก่อนเป็นเวลา 7 วันแล้ว รวมในส่วนจุดเสี่ยงใน ทั้งร้านค้า สถานบริการ ร้านอาหารกึ่งบันเทิง กว่า 10 แห่งในขณะนี้ไปแล้วนั้น และไม่อยากให้พื้นที่อื่นๆที่จะต้องได้รับผลกระทบตามมาได้อีกด้วย เพราะหากยังมีการไม่ช่วยกันอย่างจริงจัง ทางจังหวัดอาจจะต้องมีความจำต้องมีการล็อกดาวน์ หรือสั่งปิดสถานที่ต่างๆตามมาอีกได้ ซึ่งยังไม่อยากให้ถึงขั้นดังกล่าว และขอให้ประชาชนทุกคนช่วยกันในการกักตัว ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันของทางจังหวัดอย่างจริงจัง และก็ต้องช่วยกันรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวมด้วย