คืบหน้า "เรือระเบิด" พบร่างผู้สูญหายแล้ว เป็นศพติดในซากเรือ
คืบหน้าเหตุเรือบรรทุกน้ำมันระเบิด บริเวณน้ำมัน บริเวณท่าเรือไออาร์พีซี ซอยสุขสวัสดิ์ 45 จ.สมุทรปราการ บาดเจ็บ 3 ราย ล่าสุดพบผู้สูญหายเป็นศพติดซากเรือ ขณะ "ไออาร์พีซี" แจง เป็นเรือเปล่า จนท.เร่งหาสาเหตุ
เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุระเบิด ภายในเรือบรรทุกน้ำมัน และเกิดเพลิงลุกไหม้ เหตุเกิดบริเวณท่าเทียบเรือ บริษัท ไออาร์พีซี ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาภายในซอยสุขสวัสดิ์ 45 ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งพร้อมรถดับเพลิงเทศบาลเมืองลัดหลวงและเทศบาลใกล้เคียงและเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ของบริษัทดังกล่าว ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าในพื้นที่ท่าเรือ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่เจ้าท่าภูมิภาคสาขาจังหวัดสมุทรปราการ ได้นำเรือตรวจการณ์เข้าตรวจสอบ ได้พบเพลิงกำลังลุกไหม้เรือบรรทุกน้ำมัน ชื่อเรือ สมูธ ซี 2 ขนาด 1989 ตันกรอส ซึ่งเป็นเรือสัญชาติไทย
โดยมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของท่าเรือและฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงทีลุกไหม้ภายในเรือลำดังกล่าว ใช้เวลานานกว่า 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
หลังเกิดเหตุพบว่ามีผู้บาดเจ็บ จำนวน 3 ราย และ สูญหาย 1 ราย ซึ่งหนึ่งในผู้บาดเจ็บได้ถูกนำลงเรือและแลนไปขึ้นที่ท่าน้ำพระประแดงก่อนประสานรถกู้ชีพของมูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางไปรับตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลบางประกอก 3 ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 2 รายยังอยู่ในที่เกิดเหตุ
หลังเจ้าหน้าที่ได้เจราจาอยู่นานทางผู้บริหารจึงยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและมูลนิธิเข้าไปรับผู้บาดเจ็บทั้งสองรายไปรักษาที่โรงพยาบาลบางประกอก 3 เช่นเดียวกัน ส่วนบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องยังคงไม่ให้เข้าไปภายในท่าเรือที่เกิดเหตุ
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่แจ้งว่าพบร่างผู้สูญหายแล้ว เป็นศพติดอยู่ในซากเรือ ขณะนี้กำลังเร่งเข้าไปเก็บกู้
จากการสอบถามนายรัฐภูมิ รัศนาจั่น หนึ่งในลูกเรือลำที่เกิดเหตุ ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเรือลำดังกล่าวได้บรรทุกน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 9 และน้ำมันไฮสปีด มาจำนวน 2,800,000 ลิตร มาส่งที่ท่าเรือดังกล่าวหลังจากที่โหลดน้ำมันขึ้นหมดแล้ว และเรือกำลังจะออกจากท่าเทียบเรือ ซึ่งขณะนั้นตนกำลังเก็บเชือกอยู่ที่หัวเรืออยู่ ๆ ก็เกิดระเบิดขึ้นที่บริเวณกลางลำเรือซึ่งเป็นช่องที่บรรทุกน้ำมันมาส่ง
โดยเกิดระเบิดขึ้นสองครั้งครั้งแรกไม่แรงเท่าไหร่ แต่ครั้งทั้งสองเสียงดังแรงมากจนทำให้กาบเรือแตกและเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นอย่างรุนแรงโดยขณะเกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 รายถูกลำเรียงลงเรือไปขึ้นที่ท่าน้ำพระประแดงประสานรถมูลนิธิรีบไปส่งต่อที่โรงพยาบาลบางประกอก 3 ส่วนตนและเพื่อนร่วมงานอีก 1 ราย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ข้อมือและส่วนประสาทของหู เนื่องจากอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ นอกจากนี้ยังมีคนงานสูญหายไปอีก 1 รายซึ่งยังหาตัวไม่เจอ ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากไอน้ำมันในห้องเก็บ
ขณะที่นางคำภา สันวังค์ อายุ 62 ปี แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว ซึ่งร้านตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือดังกล่าว ได้เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. ขณะที่ตนกำลังยืนจัดของอยู่ในร้านก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างรุนแรงถึงสองครั้งจนพื้นสะเทือน ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่สิ้นเสียงระเบิดได้พักใหญ่ก็มีคนงานวิ่งออกมาบอกว่าเรือบรรทุกน้ำมันระเบิด ตนตกใจมากเพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ทราบว่าเรือบรรทุกน้ำมันลำดังกล่าว เป็นของ บริษัท สมูทซี จำกัด เลขที่ 924 อาคาร ตะล่อมสิน ชั้น 6 ถนนพระรามที่ 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร ชนิดเรือกลประเภทเรือ เรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต ประเภทการใช้ ผลิตภัณฑ์น้ำมันบรรทุกผลิตภัณฑ์น้ำมันที่มีจุดวาบไฟต่ำกว่า 60 องศาเซลเซียส เขตการเดินเรือลำน้ำทะเล ระหว่างจังหวัดตราดกับจังหวัดนราธิวาส ขนาดความกว้าง 14.80 เมตร ขนาดความยาว 75.50 เมตร ขนาดความลึก 6.30 เมตร ขนาดตันกรอส 1989 1043 น้ำหนักบรรทุก 3043.60 ตัน จำนวนคนเดินเรือ 17 คน ชนิดเครื่องยนต์ดีเซล ยี่ห้อเครื่องยนต์ ฮันชิน หมายเลขเครื่องยนต์ EL 35-22 กำลังเครื่องยนต์ 1790.40 กิโลวัตต์จำนวน 6 สูบ
ขณะเดียวกันทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเตรียมเข้าตรวจเก็บหลักฐานในเรือที่เกิดแหตุ ส่วนทางด้านพนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง อยู่ระหว่างติดตามพยานในที่เกิดเหตุและผู้ที่เกี่ยวข้องมาทำการสอบสวนข้อเท็จจริง
ส่วนทางด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้สั่งการณ์ให้นายอำเภอพระประแดง พร้อมเจ้าหน้าที่ ปภ.จังหวัดและเจ้าท่าสมุทรปราการ เร่งสรุปสาเหตุที่เกิดขึ้นและทางอำเภอได้มีการตั้งศูนย์อำนวยการรับแจ้งเหตุอันได้รับผลกระทบจะการระเบิดของเรือในครั้งนี้ โดยแจ้งได้ที่ว่าการอำเภอพระประแดง โดยมีปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ถ้าในเขตเทศบาลก็จะให้เทศบาลเป็นคนรับผิดชอบและประธานชุมชนเป็นผู้รับแจ้ง ถ้านอกเขตให้ไปแจ้งได้ที่ว่าการอำเภอพระประแดง
ส่วนที่ว่าสถานที่เกิดเหตุปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นหรือยังคงต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบอีกครั้งเพราะว่าในที่เกิดเหตุน่าจะมีเรื่องในละอองน้ำมันไอของก๊าซต่าง ๆ ซึ่งอาจะต้องใช้เวลาให้ละเหยต้องใช่เวลาสักระยะหนึ่ง
นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) กล่าวว่าพนักงานไออาร์พีซีเข้าช่วยระงับเหตุ เรือขนส่งน้ำมันที่เกิดเหตุไฟไหม้ที่จ.สมุทปราการ เรือดังกล่าวเป็นของเอกชนรับจ้างขนส่งน้ำมันดีเซล/เบนซินจากโรงกลั่นไออาร์พีซี.จ.ระยองมาที่คลังน้ำมันพระประแดงของไออาร์พีซี จ.สมุทรปราการ.โดยมีการขนส่งน้ำมันเข้าคลัง.เรียบร้อยแล้ว
"ทราบว่าขณะเกิดเหตุไฟไหม้เป็นเรือเปล่า ส่วนสาเหตุเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ทางการตรวจสอบ โดยช่วงเกิดเหตุพนักงานของบริษัทได้เข้าช่วยเหลือระงับเหตุ ตามหลักความปลอดภัยและเข้าช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว" นายชวลิต กล่าว