เปิดโครงการรวมใจภักดิ์ รักษ์แหล่งน้ำ กำจัดผักตบชวา ที่นครพนม
องคมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่นครพนม ร่วมประชุมเชิงวิชาการ และเปิดโครงการรวมใจภักดิ์ รักษ์แหล่งน้ำ กำจัดผักตบชวาอย่างยั่งยืน ตามแนวพระราชดำริในหลวง ร.9 จัดโดย อบจ.นครพนม
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2565 เวลา 09.00 น. พลเรือเอก พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี ได้เดินทางเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการรวมใจภักดิ์ รักษ์แหล่งน้ำ ประจำปีงบประมาณ 2565 ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม และได้ให้เกียรติร่วมประชุมเชิงวิชาการเรื่องแนวทางการกำจัดวัชพืชในแหล่งน้ำของประเทศไทยอย่างยั่งยืน โดยมี นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมกล่าวต้อนรับองคมนตรีพร้อมคณะ ณ โรงแรมไอโฮเทล จังหวัดนครพนม
ทั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ในจังหวัดนครพนม ดำรงชีพด้วยการประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่ผลผลิตต้องพึ่งพิงน้ำจากธรรมชาติ มักจะประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง และปัญหาน้ำท่วมในฤดูน้ำหลาก สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดน้ำท่วม คือ วัชพืชและการตื้นเขินของแหล่งน้ำ จึงแม้จังหวัดนครพนมจะตั้งอยู่ในลุ่มแม่น้ำโขง และยังมีพื้นที่ลุ่มน้ำสาขาต่างๆมากมาย แต่ก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาการจัดการน้ำได้อย่างยั่งยืน เนื่องจากผักตบชวา หอก แหน ส่วนใหญ่เกิดในลุ่มน้ำสาขา คลอง หนองน้ำ
นับเป็นอุปสรรคสำคัญที่สร้างปัญหาทางสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง เพราะผักตบชวาเป็นวัชพืชที่เจริญเติบโตได้ทุกสภาพน้ำ ขยายพันธุ์ แพร่กระจายตัวได้อย่างรวดเร็วจนเต็มแม่น้ำลำคลอง เป็นอุปสรรคต่อการประมงทำให้อัตราการไหลเวียนของแม่น้ำลำคลองลดลง กีดขวางเส้นทางสัญจรทางน้ำ ลำคลองเกิดการตื้นเขินและยังทำให้เกิดการระเหยน้ำเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติถึง 3-5 เท่า จึงเกิดน้ำเน่าเสีย ส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของประชาชน รวมถึงผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของสัตว์น้ำ ตลอดจนเกิดความไม่สวยงามตามแม่น้ำ ลำคลองในท้องถิ่น
นางสาว ศุภพานี โพธิ์สุ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม(อบจ.ฯ) จึงได้กล่าวรายงานต่อองคมนตรี ว่า อบจ.นครพนมได้รับทราบข้อมูลปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ อันเกิดจากผักตบชวา หอก แหน ที่เกิดในลุ่มน้ำสาขาและเป็นอุปสรรคสำคัญที่สร้างปัญหาทางสิ่งแวดล้อม เพื่อให้การดำเนินการแก้ปัญหาและให้บริการสาธารณะตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2540 และแก้ไขเพิ่มเติม และพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) พ.ศ.2542 และแก้ไขเพิ่มเติม ที่กำหนดให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดมีอำนาจและหน้าที่ในการคุ้มครอง ดูแล และบำรุงรักษาป่าไม้ ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การจัดการและสิ่งแวดล้อมมลพิษต่างๆ รวมถึงการสร้างและบำรุงรักษาทางบก ทางน้ำ ที่เชื่อมระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ประกอบกับนายกรัฐมนตรีได้ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 217/2563 ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาผักตบชวาให้มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดแนวทาง และมาตรการในการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปอย่างมีระบบ ตลอดจนควบคุมกำกับและติดตามผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาผักตบชวา เพื่อให้บรรลุตามเป้าประสงค์ที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยคณะกรรมการอำนวยการบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาผักตบชวา ได้มีข้อสั่งการตามหนังสือกรมส่งเสริมการปรกครองท้องถิ่น ด่วนที่สุด ที่ มท 0820.3/ว 808 ลงวันที่ 20 เมษายน 2564 ให้หน่วยงานรับผิดชอบกำจัดผักตบชวา โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการบูรณาการแก้ไขผักตบชวาและวัชพืช เพื่อเตรียมรับน้ำหลากในฤดูฝน แก้ปัญหาภัยแล้ง และเป็นการรักษาแหล่งน้ำธรรมชาติ ให้คงอยู่อย่างมีคุณภาพ ตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย ด่วนที่สุด ที่ มท 0820.3/ว 5742 ลงวันที่ 5 ตุลาคม 2564 รวมทั้งคณะทำงานเพื่อปฏิบัติการแก้ไขผักตบชวาระดับจังหวัด ตามคำสั่งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาผักตบชวา ที่ 1/2564 ลงวันที่ 7 ธันวาคม 2564 เห็นชอบให้ อบจ.นครพนม ดำเนินการแก้ไขผักตบชวา หากเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่และอาจจะเป็นแหล่งเชื่อมโยง
จากนั้น พลเรือเอก พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2/ส.ส.นครพนมเขต 1 พรรคภูมิใจไทย ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ศ.(วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย(วว.) นายชาธิป รุจเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และ นางสาว ศุภพานี โพธิ์สุ นายก อบจ.นครพนม ร่วมประชุมเชิงวิชาการเรื่องแนวทางการกำจัดวัชพืชในแหล่งน้ำของประเทศไทยอย่างยั่งยืน ต่อจากนั้นก็เดินทางไปทำพิธีเปิดโครงการรวมใจภักดิ์ รักษ์แหล่งน้ำ ฯ ณ บริเวณห้วยฮ่องฮอ บ้านหนองบัว ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพพนม เป็นลำดับต่อไป
อนึ่ง อบจ.นครพนม ได้เล็งเห็นความสำคัญของน้ำ ตามพระราชดำริผ่านกระแสพระราชดำรัสในการจัดการน้ำของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2529 ที่ทรงวางน้ำหนักให้กับเรื่องน้ำว่า “น้ำคือชีวิต ต้องมีอย่างเพียงพอ หลักสำคัญว่าต้องมีน้ำ น้ำบริโภค และน้ำใช้ น้ำเพื่อการเพาะปลูก เพราะชีวิตอยู่ที่นั่น ถ้ามีน้ำ คนอยู่ได้ ถ้าไม่มีน้ำ คนอยู่ไม่ได้ ไม่มีไฟฟ้า คนอยู่ได้ แต่ถ้าไฟฟ้าไม่มีน้ำ คนอยู่ไม่ได้” โดยน้อมนำพระราชดำริดังกล่าวมาบริหารจัดการแหล่งน้ำสาธารณะต่างๆ ในเขตพื้นที่จังหวัดนครพนม ด้วยการกำจัดผักตบชวา และวัชพืชต่างๆในแหล่งน้ำธรรมชาติ ทั้งที่เป็นแหล่งน้ำปิดและแหล่งน้ำเปิดด้วยหลักธรรมชาติเพื่อธรรมชาติ หยุดการแพร่พันธุ์ของผักตบชวาเป็นการกำจัดวัชพืชในระยะยาว ไม่เกิดผลเสียต่อน้ำและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดจากแหล่งน้ำธรรมชาติที่มีคุณภาพ อันจะส่งผลต่อผลผลิตทางการเกษตรที่ดีขึ้น การใช้ประโยชน์ด้านสาธารณูปโภค สาธารณูปการของประชาชนเป็นไปอย่างทั่วถึงและยั่งยืน จึงได้เกิดโครงการรวมใจภักดิ์ รักแหล่งน้ำ ประจำปีงบประมาณ 2565 สำหรับส่งเสริมการวิจัยและการพัฒนาการให้บริการศึกษา และการให้บริการทางวิชาการในการกำจัดวัชพืชขึ้น