"รับน้องเสียชีวิต" รับศพน้องเปรมบำเพ็ญกุศล พ่อชี้แจงหลัง รพ.พบเชื้อโควิด
"รับน้องเสียชีวิต" ญาติรับศพ น้องเปรม เหยื่อรับน้องโหดมาบำเพ็ญกุศลที่ อ.สีคิ้ว พ่อน้องไม่ให้กลุ่มรุ่นพี่ที่ก่อเหตุเข้าร่วมงานศพ หวั่นญาติทำใจไม่ได้
"รับน้องเสียชีวิต" จากกรณีนายพัสยศ หรือ น้องเปรม อายุ 19 ปี นักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 1 สาขาช่างกลโรงงาน วิทยาลัยนวัตกรรมวิชาชีพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เสียชีวิตจากการถูกกลุ่มรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายในกิจกรรมรับน้อง ล่าสุดญาติรับศพ น้องเปรม มาบำเพ็ญกุศลที่ อ.สีคิ้ว ขณะที่พ่อไม่ให้กลุ่มรุ่นพี่ที่ก่อเหตุเข้าร่วมงานศพหวั่นญาติทำใจไม่ได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ทำแผนจุดเกิดเหตุรุ่นพี่ "รับน้องโหด" เสียชีวิต เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม 25 คน
- สภานักศึกษา มข. ประณาม "รับน้องโหด" กรณี "น้องเปรม" ถูกรุ่นพี่รุมทำร้ายเสียชีวิต
- ปมร้อน "รับน้อง" โหดจนเสียชีวิต! รุ่นพี่ต้องโทษแค่ไหน ติดคุกกี่ปี
นายเอกชัย (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นพ่อของ น้องเปรม เหยื่อ "รับน้องเสียชีวิต" ได้รับศพน้องเดินทางมาจากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพมหานคร มาถึงวัดสีคิ้วคณาราม หรือ วัดน้อย ต.สีคิ้ว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เพื่อตั้งศพบำเพ็ญกุศลตามประเพณี โดยจะมีการสวดอภิธรรม 3 วัน หลังจากนั้นก็จะประกอบพิธีฌาปนกิจศพ ในวันจันทร์ที่ 21 มี.ค.2565 นี้ต่อไป
พ่อของ น้องเปรม เปิดเผยว่า แม้ฝ่ายผู้ปกครองของนักศึกษารุ่นพี่จะพยายามที่จะให้เงินเยียวยากับครอบครัวตนเองเป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท แต่ตนเองจะไม่ขอรับไว้ เพราะถือว่าชีวิตของลูกชายนั้นตีค่าเป็นเงินไม่ได้ ลูกชายของตนเองกำลังมีอนาคตที่สดใสต้องมาจบชีวิตด้วยการจัดกิจกรรมรับน้องที่ไร้สาระเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ให้อภัยไม่ได้
ดังนั้น เรื่องของคดีความ ตนเองก็จะขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเอาผิดให้ถึงที่สุด ขณะเดียวกันกลุ่มรุ่นพี่ที่ก่อเหตุพยายามติดต่อมาที่ตนเอง เพื่อที่จะขอเข้ามาร่วมไว้อาลัยในงานศพ ตนเองก็ไม่อยากให้มาเพราะเกรงว่าฝ่ายญาติๆจะทำใจไม่ได้ แต่ถ้าฝ่ายผู้ปกครองของรุ่นพี่จะมาก็ไม่ห้าม เพราะผู้ปกครองคงจะไม่รู้เรื่องอะไรกับกิจกรรมรับน้องครั้งนี้
ส่วนกรณีที่ตอนแรก ทางโรงพยาบาลค่ายสุรนารี ตรวจพบว่า น้องเปรม ติดเชื้อโควิด-19 และในเวลาต่อมาทางสถาบันนิติเวชวิทยา ยืนยันว่าไม่ได้ติดเชื้อนั้น ตนเองก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะอาจจะเกิดข้อผิดพลาดกันได้ ตอนนี้ก็จะขอบำเพ็ญกุศลศพให้กับ น้องเปรม ให้ดีที่สุด หลังจากนั้นก็จะนำกระดูกไปทำบุญต่อที่ จ.นครศรีธรรมราช บ้านเกิดต่อไป