ประธาน กมธ.สิทธิมนุษยชน สว. จี้ตร.คดี "แตงโม นิดา" ปมใช้เครื่องจับเท็จ
สมชาย แสวงการ ประธาน กมธ.สิทธิมนุษยชน สว. จี้ตร.คดี "แตงโม นิดา" ปมใช้เครื่องจับเท็จ
ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา หรือ กมธ. นำโดย นายสมชาย แสวงการ ประธาน กมธ. แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิก กมธ. และ นายศตวรรษ เศรษฐกร หรือ เต๊ะ ได้เดินทางมาที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี (บก.ภ.จว.นนทบุรี) เพื่อตรวจสอบเรือสปีดโบ๊ทลำเกิดเหตุ กรณีดาราสาว “แตงโม นิดา” พลัดตกเรือเสียชีวิต กลางแม่น้ำเจ้าพระยา โดยแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ได้นำกล้อง DSLR มาถ่ายรูปเรือสปีดโบ๊ทด้วยตนเอง โดยเฉพาะช่วงท้ายเรือ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นคณะกรรมาธิการ จึงได้เข้าไปพูดคุยกับพันตำรวจเอกจาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผู้กำกับ สภ.เมืองนนทบุรี เป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ภายหลังจากการพูดคุย นายสมชาย แสวงการ ประธาน กมธ. เปิดเผยว่า วันนี้คณะกรรมาธิการฯ ได้มาตรวจดูเรือ ซึ่งเป็นพยานหลักฐานสำคัญให้เกิดความกระจ่างชัดเจน และได้หารือกับผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ในหลายประเด็นที่ยังมีข้อสงสัย ซึ่งตอนนี้ทราบว่า เริ่มมีความชัดเจนขึ้น และตำรวจจะเร่งดำเนินการสรุปสำนวนคดีภายใน 2 เดือน นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ ก็คือภายใน 1 เดือนหน้า
และรับปากว่า จะตรวจสอบในทุกประเด็นอย่างรอบคอบ รัดกุม และกระชับให้รวดเร็วขึ้น ในส่วนของคณะกรรมาธิการ ก็จะทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของหน่วยต่างๆ ให้ครบถ้วน เพื่อความเป็นธรรมต่อไปตามที่ได้รับการร้องเรียนจากคุณแม่ของแตงโม โดยหลังจากนี้จะไปหารือกับกองพิสูจน์หลักฐาน ภาค 1 ด้วย เรื่องการตรวจสอบพยานวัตถุต่าง ๆ
สำหรับสาเหตุที่ต้องมาตรวจสอบเรือลำเกิดเหตุ เพราะบางส่วนของเรือ อาจเข้าข่ายองค์ประกอบที่ทำให้เกิดบาดแผล เช่น ใบพัดเรือ หรือฟินเรือ ซึ่งทาง กมธ. ก็มีสมาชิกที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้ คือ คุณหญิงหมอพรทิพย์ จึงให้มาตรวจดูด้วยตนเอง
วันนี้ ทาง กมธ. ได้มีข้อเสนอแนะใน 3 เรื่อง คือ 1. การเก็บเรือ หากไม่ย้าย ก็ต้องหาผ้ามาคลุมให้มิดชิด ไม่ให้วัตถุพยานเปลี่ยนสภาพ 2. ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเรือมาให้ข้อมูลและวิเคราะห์เกี่ยวกับการตกเรือ ลักษณะการเกิดบาดแผลโดยละเอียด ว่าตกไปแล้วจะโดนร่างกายได้อย่างไรบ้าง เช่น การดูด การกระจายออก เป็นต้น ซึ่งเรือแต่ละประเภทก็จะให้ลักษณะที่ไม่เหมือนกัน
3. เรื่องการสอบพยาน โดยใช้เครื่องจับเท็จ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนยืนยันว่าไม่ได้บอกว่าจะไม่มีการเข้าเครื่องจับเท็จโดยหากสอบสวนไปแล้วพบว่ามีความจำเป็นก็จะนำเครื่องจับเท็จมาใช้เป็นการยุติข้อสงสัยด้วยวิทยาศาสตร์ซึ่งการใช้เครื่องจับเท็จนั้นไม่ได้เกินความสามารถของตำรวจ
อย่างไรก็ตาม กมธ. มีอำนาจตามกฎหมายในการมาช่วยให้เกิดความชัดเจนและความเป็นธรรม จึงอยากให้รีบสรุปข้อเท็จจริงให้เร็วที่สุดและเป็นไปในแนวทางที่สังคมเห็นแล้วยอมรับได้ เพราะตอนนี้ได้เกิดประเด็นต่างๆ ขึ้นมากมาย ทำให้เกิดความสับสนไม่ว่าจะด้วยความหวังดีหรือไม่ก็ตามแต่ล้วนไม่ส่งผลดีต่อผู้เสียชีวิต