เช็ก "ประกันสังคม" ลดเงินสมทบ 3 เดือน ม.33 ม.39 นายจ้าง-ลูกจ้างได้อะไรบ้าง
เช็ก "ประกันสังคม" ลดเงินสมทบ 3 เดือน นายจ้าง ลูกจ้าง ม.33 รวมถึงผู้ประกันตนมาตรา 39 ภายหลัง ครม.เคาะ "10 มาตรการลดค่าครองชีพ"
เช็ก "ประกันสังคม" ลดเงินสมทบ 3 เดือน นายจ้าง ลูกจ้าง ม.33 รวมถึงผู้ประกันตนมาตรา 39 ภายหลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการมาตรการลดค่าครองชีพและมาตรการลดภาระราคาพลังงานให้กับประชาชนเคาะ "10 มาตรการลดค่าครองชีพ"
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ครม.เพิ่ม "เงินบำเหน็จชราภาพ" ช่วงลดเงิน "ประกันสังคม" ม.33 ม.39 ได้เท่าไร ?
- เช็ก "ประกันสังคม" ผู้ประกันตน เจ็บป่วยฉุกเฉิน-ติดโควิด ช่วงสงกรานต์ 2565
- เช็ก "ประกันสังคม" ม.40 ติดโควิด รักษาตัวที่บ้าน เบิกได้เท่าไหร่ ทำอย่างไร
สำหรับการลดเงินสมทบ "ประกันสังคม" เพื่อช่วยเหลือนายจ้างผู้ประกอบการ และพี่น้องผู้ประกันตน โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อย ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 และสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ ต้นทุนการผลิต และบริการของทั้งในและต่างประเทศ
ลดเงินสมทบ "ประกันสังคม" เริ่มเมื่อไหร่?
- เดือนพฤษภาคม - กรกฎาคม 2565 รวมเป็นเวลา 3 เดือน
ประกันสังคม ม.33 ม.39 จะได้อะไรบ้าง?
- คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบมาตรการในการช่วยเหลือลดเงินสมทบนายจ้าง ผู้ประกันตนมาตรา 33 จากเดิมร้อยละ 5 เหลือฝ่ายละร้อยละ 1 ของค่าจ้าง
- ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ปรับลดอัตราเงินสมทบ จากเดิมร้อยละ 9 (เดือนละ 432 บาท) เหลือร้อยละ 1.9 คิดเป็นเงินเดือนละ 91 บาท เริ่มงวดเดือนพฤษภาคม - กรกฎาคม 2565 สำหรับฝ่ายรัฐบาลยังส่งเงินสมทบในอัตราเดิมคือร้อยละ 2.75 ของค่าจ้างผู้ประกันตน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยต่อไปว่า มาตรการลดเงินสมทบเพื่อช่วยเหลือพี่น้องผู้ประกันตนในยามเดือดร้อนในสถานการณ์ดังกล่าว จะส่งผลให้ผู้ประกันตนสามารถนำเงินสมทบที่ลดลง 1,000 – 1,800 บาทต่อคน รวมเป็นเงินประมาณ 18,085 ล้านบาท ไปใช้เพิ่มกระแสเงินสดให้ผู้ประกันตนมีสภาพคล่องมากขึ้น
หากลูกจ้างผู้ประกันตนติดเชื้อต้องรักษาตัวไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ทำให้ขาดรายได้ อีกทั้งมาตรการดังกล่าว จะเป็นการลดปัญหาทางการเงินของผู้ประกันตนทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
นอกจากนั้นแล้วยังเป็นการช่วยแบ่งเบาลดภาระต้นทุนที่สูงขึ้นและเพิ่มสภาพคล่องให้กับนายจ้าง เป็นจำนวนเงิน 15,938 ล้านบาท เพิ่มศักยภาพในการรักษาการจ้างงาน ส่งผลให้สามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้อย่างต่อเนื่องในระบบเศรษฐกิจ เงินสมทบที่ลดลงมากกว่า 34,023 ล้านบาท จะกลายเป็นเม็ดเงินที่นำมาใช้จ่ายช่วยหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ของประเทศ
สำหรับขั้นตอนต่อจากนี้ กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคมจะได้เร่งดำเนินการเพื่อให้ประกาศใช้เป็นกฎหมายได้ทันภายในกำหนด จึงขอให้นายจ้าง และผู้ประกันตน มั่นใจการดำเนินงานของกระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคมภายใต้ นโยบายของนายประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาของผู้ประกันตนให้ตรงจุดและทันท่วงที เนื่องจากปัญหาเรื่องความเป็นอยู่ ปากท้องของพี่น้อง ผู้ใช้แรงงานเป็นเรื่องสำคัญ และจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอย่างแน่นอน
ที่มา สำนักงานประกันสังคม