สถานการณ์เมียนมา รัฐคะเรนนียังคงสู้รบกันอย่างหนัก ปชช.อพยพหลักแสน

(9 เมษายน 2565) พลจัตวาบีทู ผู้บัญชาการทหารสูงสุดกองทัพกะเหรี่ยงคะยา (Karenni Army : KA ) เปิดเผยถึงสถานการณ์การสู้รบในเมืองลอยก่อว์ , เมืองดีมอโซว์ , เมืองฟลูโซว์ รัฐคะเรนนี (รัฐคะยา) ปัจจุบันในพื้นที่ที่กล่าวมาข้างต้น ยังคงมีการสู้รบกันอย่างหนัก ระหว่าง กองกําลังป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยงนี (KNDF) และกองกําลังป้องกันประชาชน (PDF) กับทหารเมียนมา สังกัดกองพลทหารราบเบาที่ 55 และ กองพลทหารราบเบาที่ 66

 

 

โดยทั้ง 2 กองพล ได้จัดส่งกำลังพลเข้ามาในพื้นที่ของรัฐคะเรนนี กองพลละ 3 กองบัญชาการทางยุทธการ บก.ยุทธการละ 3 กองพัน รวมทั้งหมด 9 กองพัน และรวมไปถึงทหารประจำถิ่นในพื้นที่รัฐคะเรนนี อีกจำนวนไม่ต่ำกว่า 50 กองพัน

 

การสู้รบ ที่เกิดขึ้น มีทั้งการสู้รบในเมืองและสู้รบตามชนบท ซึ่งในตอนแรกเริ่มด้วยการสู้รบในเมืองตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2564 เป็นต้นมา ซึ่งการสู้รบในเมือง ทางกองทัพคะยาไม่คาดคิดว่าทหารพม่าจะกล้าโจมตีพลเรือน และตึกสูงในตัวเมืองใหญ่ ได้แก่ เมืองลอยก่อว์ เมืองดีมอโซว์ และ เมืองฟลูโซว์

 

การโจมตีพลเรือนด้วยอากาศยานและปืนใหญ่ ทำให้ราษฎรที่อยู่ในพื้นที่ 3 เมืองข้างต้นจำนวนไม่ต่ำกว่า 100,000 คน ต้องหนีไปอาศัยอยู่ในป่าพื้นที่รอยต่อระหว่าง เมืองฟลูโซว์ กับเมืองดีมอร์โซว์ ซึ่งมีการจัดตั้งแคมป์เพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัย โดยมีองค์กร IDP เข้าไปให้การช่วยเหลือแต่ทางการเมียนมา กลับมีการใช้อากาศยานบินโจมตีที่อยู่อาศัยของผู้ลี้ภัยเหล่านั้น

 

 

ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2565 ทีม FBR Karenni ช่วยเคลื่อนย้ายกลุ่ม IDP ที่หลบหนีการโจมตีของกองทัพพม่าจาก Demoso ตะวันตกสู่พื้นที่ความปลอดภัย รวมไปถึงการไปเยี่ยมทหารจากกองกําลังป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยงนี (KNDF) และกองกําลังป้องกันประชาชน (PDF) ที่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของกองทัพพม่า

 

ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของ กองทัพกะเหรี่ยงคะยา กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันทหารพม่าได้ถูกปิดล้อม และสกัดกั้นเส้นทางส่งเสบียงบำรุงกำลังในหลายพื้นที่ โดยกองทัพกะเหรี่ยงคะยา ได้ทำลายสะพาน ทุกจุด ที่เชื่อมระหว่างเมืองดีมอร์โซว์ กับเมืองบอลาแคะ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของรัฐคะเรนนี ติดกับประเทศไทย

 

 

นอกจากนั้น ในส่วนของเส้นทางรอยต่อระหว่างรัฐฉานกับรัฐคะเรนนี บริเวณดอยสามเมือง ตรงข้ามบ้านรักไทย ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ทหารของกองทัพกะเหรี่ยงคะยาได้ส่งกำลังเข้าไปสกัดกั้นและปิดกั้นเส้นทาง ส่งเสบียงบำรุงกำลังของทหารพม่า ที่มีการอ้อมพื้นที่รัฐฉานเข้ามาในรัฐคาเรนนี ทำให้ทางการเมียนมาไม่สามารถส่งเสบียงอาหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับทหารที่อยู่ในพื้นที่ด้านทิศตะวันออกของแม่น้ำสาละวิน ตรงข้ามช่องทางบ้านน้ำเพียงดิน ต.ผาบ่อง อ.เมือง ของไทยได้ 

 

ล่าสุด ทางกองทัพกะเหรี่ยงคะยา ได้จัดส่งทหารไปทำการซุ่มโจมตีทหารเมียนมา เพื่อกดดันอย่างต่อเนื่อง การซุ่มโจมตีทำให้ทหารเมียนมาสูญเสียอย่างหนัก และการนำคนเจ็บไปรักษาต้องใช้อากาศยานเท่านั้นในการเข้ามารับคนเจ็บ

 

โดยการมาของเฮลิคอปเตอร์ฝ่ายทหารเมียนมาในแต่ละพื้นที่จะทำการยิงอาวุธหนักสุ่มไปยังจุดที่คิดว่าทหารคะยาจะวางกำลังเพื่อซุ่มโจมตี ส่งผลให้เสียงอาวุธหนักดังถึงหมู่บ้านชายแดนในไทย ซึ่งไม่ได้กระทบต่อราษฎรไทยหรือมีการผู้อพยพจากเมียนมาเข้าสู่ไทยแต่อย่างใด