"โควิดวันนี้" ชลบุรี เสียชีวิตพุ่ง 9 ราย ติดเชื้อ 704 ราย ATK 3,185 ราย
"โควิดวันนี้" จ.ชลบุรี มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 704 ราย ไม่รวม ATK อีก 3,185 ราย เสียชีวิตพุ่ง 9 ราย ผู้ป่วยปอดอักเสบรายใหม่ 3 ราย
"โควิดวันนี้" 18 เม.ย.65 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี สสจ.ชลบุรี รายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 704 ราย (ผู้ติดเชื้อยืนยัน RT-PCR)
1. คนที่พักอาศัยในจังหวัดระยอง เข้ามารักษาในจังหวัดชลบุรี 42 ราย สะสม 6,044 ราย และจังหวัดอื่นๆรวมสะสม 1,725 ราย
2. อาชีพเสี่ยงพบปะผู้คนจำนวนมาก 11 ราย
3. บุคลากรทางการแพทย์ 28 ราย
4. ให้ประวัติเดินทางมาจากต่างจังหวัด 6 ราย ดังนี้
4.1 กทม. 3 ราย
4.2 จังหวัดสุโขทัย 1 ราย
4.3 จังหวัดกาญจนบุรี 1 ราย
4.4 จังหวัดร้อยเอ็ด 1 ราย
5. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน
5.1 ในครอบครัว 200 ราย
5.2 จากสถานที่ทำงาน 23 ราย
5.3 บุคคลใกล้ชิด 19 ราย
5.4 ร่วมวงสังสรรค์ 5 ราย
6. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน (อยู่ระหว่างสอบสวนโรค) 12 ราย
7. อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 358 ราย
ณ วันที่ 18 เมษายน 2565 จังหวัดชลบุรี มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม 978,706 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 7,071 คน (อัตราป่วย 722.48 ต่อแสนประชากร) เสียชีวิต 6 ราย (0.61 ต่อแสนประชากร) ใส่ท่อหายใจ 5 ราย (0.51 ต่อแสนประชากร) ปอดอักเสบ 18 ราย (1.84 ต่อแสนประชากร)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม 1,914,957 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 5,193 คน (อัตราป่วย 271.18 ต่อแสนประชากร) เสียชีวิต 22 ราย (1.15 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 23 ราย (1.20 ต่อแสนประชากร), ปอดอักเสบ 23 ราย (1.20 ต่อแสนประชากร)
ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็ม 144,468 คน และไม่ได้ฉีดวัคซีนอีก 269,648 คน รวม 414,116 คน ในเดือนนี้พบผู้ติดเชื้อที่ฉีดวัคซีนไม่ครบและยังไม่ได้ฉีดวัคซีน 7,600 คน (อัตราป่วย 1,835.23 ต่อแสนประชากร), เสียชีวิต 49 ราย (11.83 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 28 ราย (6.76 ต่อแสนประชากร) , ปอดอักเสบ 48 ราย (11.59 ต่อแสนประชากร)
วันนี้พบผู้ป่วยใส่ท่อหายใจรายใหม่ 1 ราย
พบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2564
ผู้ป่วยปอดอักเสบรายใหม่ 3 ราย
- รายที่หนึ่งพบประวัติการรับวัคซีนสามเข็มเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2564
- อีกสองรายไม่พบประวัติการรับวัคซีน
ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 9 ราย
- รายที่หนึ่งอายุ 87 ปี
- รายที่สองอายุ 74 ปี
- รายที่สามอายุ 79 ปี
- รายที่สี่อายุ 90 ปี
- รายที่ห้าอายุ 50 ปี
- รายที่หกอายุ 65 ปี
- รายที่เจ็ดอายุ 85 ปี
- รายที่แปดอายุ 85 ปี
- รายที่เก้าอายุ 93 ปี
สาเหตุที่นำไปสู่การเสียชีวิตคือ เป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัวได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
รายที่หนึ่งพบประวัติการรับวัคซีนสามเข็มเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565,
รายที่สองพบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2564,
รายที่สามพบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2564,
รายที่สี่พบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2564,
และอีกห้ารายไม่พบประวัติการรับวัคซีน
ดังนั้น การฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์กล่าวคือต้องได้รับการกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดเข็มที่สาม จะช่วยลดความรุนแรงของโควิด-19 ผู้ที่อาศัยในจังหวัดชลบุรี ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือฉีดวัคซีนไม่ครบ มีโอกาสที่จะมีอาการรุนแรงมากกว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ ซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 และกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ จะมีอาการมากกว่ากลุ่มอื่น ขณะนี้มีการระบาดเป็นวงกว้างทั้งจังหวัดชลบุรี ร้านอาหารจำหน่ายสแอลกอฮอล์ ต้องคัดกรองลูกค้าด้วย ATK ทุกคน
ขณะนี้เริ่มมีการระบาดในสถานประกอบการจำนวนมาก พนักงานต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และเคร่งครัดในมาตรการองค์กร
1. เลิกงานไม่สังสรรค์
2. อาหารต้องไม่ทานใกล้ชิดด้วย
3. ป่วยต้องหยุด
4. จุดสัมผัสร่วม ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ เช่น ลูกบิด ราวบันได สแกนนิ้วมือ เซ็นชื่อแล้วต้องล้างมือทันที
5. เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล ใส่แมสก์ตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างๆกัน
สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต้องมีการกักตัวอย่างเข้มงวด ไม่ออกไปแพร่เชื้อ
การควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดชลบุรี อยู่บนพื้นฐานของสมดุลระหว่าง การควบคุมโรค เศรษฐกิจ สังคม
ปัจจัยความเร็วในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขึ้นกับการเคลื่อนที่นอกบ้านของประชาชน ความใกล้ชิดกัน รวมทั้งระยะเวลาในการใกล้ขิดกัน นอกเหนือจากการไม่เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล หากไม่ล้างมือก่อนจับหน้า เชื้อเข้าทางจมูก ปากตา ทำให้มีการติดเชื้อและแพร่ระบาดได้
ในสภาวะการณ์ที่โควิด-19 มีการระบาดในวงกว้าง จนอาจกลายเป็นโรคประจำถิ่น เชื้อไม่ได้หมดสิ่นไป ทำให้มีโอกาสในการติดเชื้อได้ แต่ต้องไม่ให้เกิดการระบาดจนระบบสาธารณสุขรองไม่ได้ และต้องไม่เสียชีวิต ดังนั้นจึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของจังหวัดชลบุรี
ค้นให้ตรงเป้า เฝ้าให้ตรงจุด ร่วมใจฉีดวัคซีน สู่โรคประจำถิ่น
1 ค้นให้ตรงเป้า ผู้ที่มีอาการไข้หวัด ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ที่ได้วัคซีนไม่ครบ มีโอกาสเสี่ยงต่อความรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ต้องได้รับการตรวจคัดกรองด้วย ATK
2 เฝ้าให้ตรงจุด สถานที่ที่มีกลุ่มเปาะบาง เสี่ยงค่อความรุนแรงหรือเสี่ยงต่อการควบคุมการระบาดได้ยาก หากเกิดการระบาดขึ้น ต้องได้รับการคัดกรองด้วย ATK สม่ำเสมอ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน สถานพักพิงคนพิการ ร้านอาหารจำหน่ายแอลกอฮอล์ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่เป็นผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัว
3 ร่วมใจฉีดวัคซีน วัคซีนลดความรุนแรงของโควิด-19 ได้ 100% แต่ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว ยังคงสามารถติดเชื้อโควิด-19 ได้ ยังคงต้องมีสุขอนามมัยส่วนบุคคล ขอความร่วมมือทุกท่านในการฉีดวัคซีน เพื่อลดความเร็วในการระบาด และลดความรุนแรงของโควิด-19 โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประตำตัว ขณะนี้ยังคงมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว และเป็นผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน
4 สู่โรคประจำถิ่น เชื้อโควิด-19 ได้ลดความรุนแรงลง และเข้าเป็นโรคประจำถิ่น ในที่สุด ทุกคนป้องกันตัวเองตามมาตรการ univeral protection ยังคงเคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล โดยเฉพาะช่วงที่กำลังมีการระบาดในวงกว้าง เพื่อชลอการระบาดไม่ให้รวดเร็วเกินไป ให้ดำเนินการตามมาตรการ คัดการด้วย ATK ก่อน และสามารถแยกกักที่บ้านได้หากไม่มีอาการและไม่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อความรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ
การควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 เป็นหน้าที่ของทุกคน