ลงทุนแบบ DCA ดีอย่างไร ทำไมจึงเหมาะกับนักลงทุนทุกคน?

การลงทุนแบบที่เรียกว่า DCA (Dollar Cost Averaging) เป็นการลงทุนที่ได้รับการยอมรับว่าเหมาะสำหรับนักลงทุนทุกคน สามารถนำไปปรับใช้กับการลงทุนในสินทรัพย์ได้หลากหลายประเภท ซึ่งรวมถึง คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัล 

DCA คืออะไร?

DCA หรือ การลงทุนแบบถัวเฉลี่ย คือการลงทุนระยะยาวรูปแบบหนึ่ง เป็นการลงทุนแบบสม่ำเสมอด้วยเงินทุนที่เท่าๆ กันทุกเดือน หรือตามช่วงเวลาที่นักลงทุนต้องการ โดยไม่สนใจว่าราคาสินทรัพย์ที่ซื้อ ณ ตอนนั้นจะอยู่ที่เท่าไหร่ 

การลงทุนแบบ DCA เน้นผลตอบแทนระยะยาว จึงเหมาะสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นการลงทุนหรือผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาสำหรับการเฝ้าดูกราฟราคาเพื่อเก็งกำไร ขณะที่นักลงทุนที่มีประสบการณ์ก็สามารถนำกลยุทธ์นี้ไปปรับใช้ได้เช่นกัน เพื่อเพิ่มความหลากหลายและกระจายความเสี่ยงให้กับการลงทุนนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกสินทรัพย์ที่จะเหมาะกับการ DCA โดยสินทรัพย์ที่เหมาะกับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ควรเป็นสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มจะเติบโตได้ในระยะยาว นักลงทุนจึงควรศึกษาคุณสมบัติของสินทรัพย์ที่สนใจให้ดีก่อนการตัดสินใจลงทุน

DCA ทำอย่างไร?

โดยทั่วไปแล้วนักลงทุนที่ใช้กลยุทธ์ DCA จะนำเงินมาซื้อสินทรัพย์ที่เล็งไว้ ด้วยเงินจำนวนที่เท่ากันทุกๆ เดือน โดยไม่สนใจราคาของที่เข้าซื้อในแต่ละครั้ง เมื่อเวลาผ่านไปตามที่ตั้งเป้าไว้ เช่น 2 - 3 ปี หรือมากกว่านั้น นักลงทุนค่อยกลับมาพิจารณาอีกครั้งว่าจะทำอย่างไรกับสินทรัพย์ที่ใช้กลยุทธ์ DCA ไว้ เป็นต้น

ยกตัวอย่างเช่น นาย A ตั้งใจว่าจะซื้อ Bitcoin เก็บทุกเดือนด้วยเงินจำนวน 2,000 บาท โดยไม่สนใจว่าตอนที่ซื้อราคา Bitcoin จะอยู่ที่เท่าไหร่ พร้อมตั้งใจว่าจะลงทุนแบบถัวเฉลี่ยเป็นเวลา 3 ปี จึงค่อยกลับมาพิจารณาอีกครั้งว่าจะทำอย่างไรกับสินทรัพย์ที่ DCA เช่น ขายทำกำไรจากส่วนต่าง ขายเพื่อนำเงินทุนไปลงตัวอื่น หรือทำ DCA เหรียญเดิมต่อ เป็นต้น

 

นักลงทุนสามารถกำหนดได้ด้วยตัวเองว่า จะเข้าซื้อเป็นรายเดือน รายไตรมาส หรือรายปี ไม่จำเป็นต้องลงทุนเป็นรายเดือนเสมอไป และยังสามารถวางแผนว่าจะย้อนกลับมาดูสินทรัพย์เมื่อเวลาผ่านไปแล้วนานแค่ไหนได้เช่นกัน แต่ควรเป็นระยะยาว เช่น ตั้งแต่ 1 ปี เป็นต้นไป เนื่องจาก DCA เป็นกลยุทธ์ที่เน้นผลตอบแทนระยะยาวมากกว่า

สิ่งสำคัญที่สุดของการลงทุนแบบ DCA ให้ประสบความสำเร็จก็คือวินัยในการลงทุน นักลงทุนต้องศึกษาสินทรัพย์ที่สนใจอย่างรอบคอบว่ามีโอกาสเติบโตในระยะยาวหรือไม่ จากนั้นจึงวางแผนทำ DCA และทำตามแผนการลงทุนที่ตั้งไว้อย่างเคร่งครัดโดยไม่เปลี่ยนใจ ลดละ หรือล้มเลิกกลางคัน

ข้อดีของการ DCA

1. เหมาะกับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาในการลงทุน เพราะไม่จำเป็นต้องเฝ้าหน้าจอเพื่อติดตามราคาตลอดเวลา
2. เสริมวินัยในการลงทุน เพราะนักลงทุนต้องลงทุนด้วยจำนวนเงินที่เท่าๆ กันในแต่ละเดือน และทำตามกลยุทธ์ที่ตั้งเป้าไว้
3. บริหารความเครียดได้ดียิ่งขึ้น เพราะการคาดหวังกับผลตอบแทนระยะยาวจะทำให้นักลงทุนไม่หมกมุ่นกับการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นมากนัก ทำให้สามารถมองเห็นภาพรวมระยะยาวได้ง่ายขึ้น และไม่เผลอใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ โดยเฉพาะช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง

ข้อควรรู้ก่อนเริ่มทำ DCA

ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การลงทุนแบบ DCA ประสบความสำเร็จ มีดังต่อไปนี้

1. ศึกษาโอกาสเติบโตของสินทรัพย์

การลงทุนไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม นักลงทุนควรศึกษาถึงโอกาสเติบโตในอนาคตของสินทรัพย์เสมอ หากทำ DCA กับสินทรัพย์หรืออุตสาหกรรมที่อยู่ในขาลงก็อาจขาดทุนได้ ดังนั้น การติดตามข่าวสารและวิเคราะห์ทิศทางเศรษฐกิจโลกจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการลงทุน

2. เข้าใจว่า DCA เป็นการลงทุนระยะยาว 

ก่อนเริ่มทำ DCA นักลงทุนต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะลงทุนเป็นระยะเวลากี่ปี ซึ่งระหว่างที่ทำ DCA อาจมีบางช่วงที่ราคาลดลงตามกลไกตลาด หากไม่มีความแน่วแน่พอก็อาจขายทิ้งตามอารมณ์ ทั้งๆ ที่ราคาที่น้อยลงหมายถึงสามารถซื้อเหรียญเก็บได้มากขึ้นด้วยเงินเท่าเดิม

3. กระจายความเสี่ยง 

นักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงด้วยการถือสินทรัพย์ที่หลากหลาย เผื่อในกรณีที่สินทรัพย์หนึ่งมีมูลค่าลดลง อีกสินทรัพย์หนึ่งก็ยังอาจช่วยหนุนไม่ให้ขาดทุนมากเกินไปได้

4. ใช้เงินเย็นในการลงทุนเสมอ

เงินเย็นในที่นี้หมายถึง เงินที่สามารถสูญเสียไปได้โดยไม่ส่งผลกระทบกับชีวิตประจำวัน ไม่ควรนำเงินร้อนหรือเงินที่ไม่สามารถเสียได้เข้ามาลงทุน รวมถึงไม่ควรกู้ยืมเงินเพื่อมาลงทุนโดยเด็ดขาด

สรุปการทำ DCA ดีหรือไม่?

การทำ DCA คือการเข้าซื้อสินทรัพย์ที่สนใจด้วยจำนวนเงินที่เท่ากันทุกเดือนหรือตามระยะเวลาที่นักลงทุนวางแผนไว้ โดยไม่สนใจราคาของสินทรัพย์ ณ ขณะนั้น เป็นการลงทุนระยะยาวที่เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่และผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาว่าง 

นักลงทุนทุกคนสามารถนำ DCA ไปใช้ได้ เพราะนอกจากสามารถทำได้ง่ายแล้ว DCA ยังสามารถลดช่วยลดเวลาที่ใช้ในการลงทุนให้นักลงทุนสามารถนำเวลาว่างไปทำอย่างอื่นเพื่อการบริหารความเครียดจากการลงทุนที่ดียิ่งขึ้น

อ้างอิง Investopedia, Kiplinger

คำเตือน

• คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัล มีความเสี่ยงสูง อาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
• สินทรัพย์ดิจิทัล มีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
• ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต
• ข้อมูลดังกล่าวไม่ใช่ข้อเสนอการลงทุนหรือการจัดการใดๆ ของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เนื้อหาข้างต้นเป็นการวิเคราะห์แนวโน้มของราคาโดยใช้ข้อมูลในอดีตและเครื่องมือวิเคราะห์ อาจมีการคลาดเคลื่อนได้ นักลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจก่อนลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล