MASTER ปฏิเสธรับรางวัล Global Health Awards 2023
บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER ปฏิเสธขึ้นรับรางวัล Global Health Awards 2023 ที่จัดโดย Global Health Asia-Pacific
เมื่อไม่นานมานี้ บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER ในนาม โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช ได้ปฏิเสธการขึ้นรับรางวัล Global Health Awards 2023 ที่จัดโดย Global Health Asia-Pacific สื่อสัญชาติสิงคโปร์ ที่ได้จัดงานมอบรางวัลไปเมื่อวันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม 2566 ณ โรงแรม Ritz Carlton บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย
นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงรางวัล Global Health Awards 2023 ว่าเป็นรางวัลที่เกิดขึ้นในวงการอุตสาหกรรมทางการแพทย์ อ้างการแจกรางวัลในสาขาต่างๆ ว่าเป็นที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ทั้งที่ไม่มีเกณฑ์มาตรฐานการคัดเลือกหรือกลั่นกรอง ทำได้แม้กระทั่งการเลือกชื่อรางวัลเอง
"ในการแจกรางวัลไม่ว่ารางวัลอะไรก็ตาม หากผมตกลงรับ ต้องมั่นใจก่อนว่า คู่ควร ซึ่งผมคาดหวังถึงกระบวนการการคัดเลือกและตัดสินที่ไม่ใช่การคิดขึ้นมาเอง แล้วบอกว่าคุณได้รับรางวัลนั้นรางวัลนี้ เช่น ควรต้องมีผู้เชี่ยวชาญตัดสิน มีผู้ผ่านเข้ารอบ แล้วถึงจะมีการประกาศรางวัลอย่างเป็นทางการ เพราะแน่นอนว่าการประกาศรางวัลนั้นเอื้อในแง่ของการทำให้ธุรกิจเติบโตและอยู่ได้ ด้วยการมีความสัมพันธ์ที่ดี สร้างความน่าเชื่อถือกับลูกค้า โดยต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง เพราะการไปบอกว่าเราดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ ใครๆ ก็พูดได้ แต่การมีรางวัล มีสถาบันที่ให้ข้อเท็จจริง หรือรับรองในมาตรฐานก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ยกตัวอย่างการมอบรางวัลมิชลินสตาร์ เขามีมาตรฐานการตรวจสอบที่ชัดเจน ทำให้เรารู้ว่าเวลาที่เลือกไปกินอาหารที่ร้านมิชลินสตาร์นั้น การันตีได้ว่าอร่อยจริง ไม่ใช่ไปถึงแล้วไก่กา ซึ่งมาตรฐานดังกล่าวเกิดจากกระบวนการกลั่นกรอง และคัดสรรด้วยมาตรฐานการรับรอง เช่น มิชลินสตาร์ มีการส่งคนมากินอาหารที่ร้านนั้นๆ จริง และมากินในฐานะลูกค้าโดยไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้าให้รู้ตัว"
นายแพทย์ระวีวัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับรางวัลที่ Global Health Asia-Pacific ติดต่อมาว่า MASTER ได้รับคัดเลือกให้เข้าชิงมี 3 รางวัล ด้วยกัน นั่นคือ Hair Transplant Clinic of The Year in Asia Pacific, Breast Augmentation Centre of the Year in Asia Pacific และ Cosmetic and Plastic Surgery Service Provider of the Year in Asia Pacific ซึ่ง โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช มีลูกค้าปลูกผมเฉลี่ยวันละ 4 เคส และด้วยศักยภาพขนาดนี้ เราสมควรกับรางวัล ส่วนรางวัลศัลยกรรมหน้าอกในเอเชีย-แปซิฟิก ที่ผ่านมาเราได้รับรางวัลท็อปการใช้ซิลิโคนเสริมหน้าอกจำนวนสูงสุด จึงไม่มีข้อสงสัยอะไรในรางวัลที่เขาบอกว่าเรามีสิทธิจะได้รับ โดยมีการขอความร่วมมือในการสนับสนุนค่าใช้จ่ายของสื่อโฆษณา ซึ่งเป็นปกติ เนื่องจากเราไม่เชี่ยวชาญ ถ้าต้องไปซื้อสื่อเองที่ประเทศสิงคโปร์ จำเป็นต้องมีเอเยนซีเป็นตัวแทนจัดการให้ โดยเจ้าของหนังสือและเจ้าของรางวัลได้เดินทางเข้ามาพบกับทีมงาน พร้อมกับตัวแทนคือ คนไทยอีก 2 คน เพื่อนำเสนอและเชิญชวนให้เข้าร่วมงานประกาศผลรางวัลดังกล่าว แต่เราเริ่มสงสัยสักประมาณหนึ่งอาทิตย์ก่อนการจัดงานว่า การแจกรางวัลครั้งนี้มี Agenda อย่างไร สามารถเปิดเผยได้ไหมว่าเราจะได้รับรางวัลจริงหรือไม่ แต่ทางนั้นบอกว่าเปิดเผยรางวัลไม่ได้
"ก่อนวันเดินทางไปรับรางวัลที่บาหลี ได้รับทราบจากการไลฟ์สดของคลินิกแห่งหนึ่งว่าเขาเป็นผู้ได้รับรางวัลชื่อใกล้เคียงกับเรา สมมติว่าเป็นรางวัล Leader in Cosmetic ซึ่งไม่รู้ว่าจู่ๆ รางวัลดังกล่าวโผล่มาจากไหน เพราะผู้จัดงานไม่เคยพูดถึงชื่อรางวัลนี้มาก่อน ชื่อภาษาอังกฤษอาจแค่คล้ายกัน แต่แปลเป็นไทยแล้วคือชื่อรางวัลเดียวกัน แล้วทำไมเขาถึงเปิดเผยชื่อรางวัลได้ก่อนโดยไม่ต้องรอการประกาศผล เราชักเริ่มเอะใจ"
นายแพทย์ระวีวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า ต้องถามหาจรรยาบรรณของคนที่ให้รางวัล ซึ่งแน่นอนว่าควรต้องมีมาตรฐานหรือเกณฑ์การวัด การตรวจสอบที่น่าเชื่อถือ ไม่ใช่ว่าฉันขอขายของ ให้เธออุดหนุนจ่ายค่าโฆษณาเพิ่มอีกหน่อย แล้วฉันจะเชียร์เธอให้ เป็นการซื้อสื่อเพื่อจะให้ได้รับรางวัล
"มีการจัดงานเพื่อจะได้ขึ้นไปถ่ายรูปบนเวที แน่นอนว่าทุกคนที่ได้รางวัลสุดท้ายแล้วก็ต้องเอารูปไปโปรโมตในสื่อต่างๆ และปลายทางก็คือ เอารางวัลไปเป็นเครื่องมือในการสร้างความน่าเชื่อถือกับลูกค้า ใช้เป็นหนึ่งในเครื่องมือปิดการขายในที่สุด ซึ่งต้องบอกว่าในกระบวนการต่างๆ นี้ในทั่วโลกหรือสายงานอื่นก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แต่ที่ผิดคือกระบวนการได้มาซึ่งรางวัล ผมมองว่าเราจำเป็นต้องมีมาตรฐานในการตรวจสอบและกลั่นกรอง ที่ผมคำนึงถึงคือสุดท้ายปลายทาง ลูกค้าของเราจะรู้สึกอย่างไร ถ้ารางวัลดังกล่าวมันไม่เป็นความจริง"
นายแพทย์ระวีวัฒน์ กล่าวถึงเหตุผลที่ไม่รับรางวัลเพิ่มเติมว่า เพราะผมรับไม่ได้กับคุณค่าของตนเองที่ถูกลดทอนลงในเรื่องความไม่ตรงไปตรงมา และการขึ้นรับรางวัลดังกล่าวยังเป็นการเอื้อประโยชน์ให้สื่อเจ้าของรางวัลดังกล่าวในปีหน้า สามารถจะเอาชื่อ โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช ไปลงประชาสัมพันธ์ เอาชื่อไปอยู่ในลิสต์คนได้รับรางวัลในปี 2023 เพื่อต่อยอดไปขายรางวัลกับคลินิกหรือโรงพยาบาลแห่งอื่นที่อาจตกเป็นเหยื่อรายต่อไป
"ผมได้ไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้วคิดว่าเราไม่ควรขึ้นรับรางวัล เราควรมีจุดยืน ซึ่งถ้าผมบอกว่าตัวเองเป็นคนดีต่อสังคมจริง การที่ผมออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวพูดคุยออกสื่อในวันนี้ เป็นข้อพิสูจน์ความเป็นคนดีได้มากที่สุด"
นายแพทย์ระวีวัฒน์ บอกกับทีมงานถึงบทเรียนที่ได้ในครั้งนี้ว่า "ผิดพลาด" กับ "ผิดคาด" ไม่เหมือนกัน สำหรับผิดพลาดคือ ไม่ได้ดู และไม่ตรวจสอบให้ถี่ถ้วน แต่ผิดคาดคือ ดูแล้วแต่บังเอิญยังมีอะไรที่นอกเหนือไปกว่านั้นอีก ซึ่งส่วนตัวได้ทำหน้าที่ตรวจสอบให้แล้ว โดยการขอดูรายละเอียดการมอบรางวัลในทันทีที่บินถึงบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย
"ชื่อรางวัลโอเค Global Health Awards 2023 สถานที่จัดงานก็โอเค จัดในโรงแรมหกดาว ดูน่าเชื่อถือ แม้จะเลือกจัดในมุมอับมุมหนึ่งของห้องจัดเลี้ยงขนาดเล็กก็ตาม แต่ที่รับไม่ได้เลยคือ การเข้าประเมินสถานที่จริง การไม่มีคณะกรรมการตัดสิน ไม่มีกระบวนการในเชิงลึกทางการตลาด การสอบถามผู้ใช้บริการจริง ไม่มีวิธีการโหวตหรือกระบวนใดเลยที่เป็นมาตรฐานในการมอบรางวัล"
ส่วนจะมีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้นหรือไม่ "นายแพทย์ระวีวัฒน์" เปิดเผยว่า ไม่ใช่ว่าท้าทาย แต่เชื่อว่ามันมีกฎหมายที่หากเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนเราสามารถทำได้ เราจะไม่ยอมให้ต่างประเทศมาเอาเปรียบ หรืออาศัยช่องว่างของคำว่า Asia-Pacific มาใช้ทำมาหากิน เฉพาะในส่วนของ MASTER เราตัดสินใจว่าต้องรีบออกมาพูด เพราะไม่เช่นนั้นพอจบงานที่อินโดนีเซีย เขาก็จะเริ่มหาสปอนเซอร์รายใหม่ แล้วจะมีอีกกี่คลินิก กี่โรงพยาบาลที่เขาเอาชื่อไปเคลม เพราะท้ายที่สุดคนที่หลงเชื่อก็คือลูกค้าที่ต้องโดนเหมือนเราโดน
"ผมชอบการแข่งขัน มันเป็นสิ่งที่ทำให้เราดีขึ้น และดีขึ้นในทุกวัน เรียกว่าเราแข่งกับตัวเอง แต่ถ้าเมื่อไรเกิดการแข่งขันโดยที่ไม่ต้องแข่ง การได้อะไรมาโดยที่ไม่ต้องขวนขวาย ผมว่ามันไม่มีคุณค่า และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดคือ ผมไม่ชอบชนะใคร โดยที่ผมไม่ได้พยายาม" นายแพทย์ระวีวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย