สอบใบขับขี่ใหม่ 2566 ต้องเตรียมตัวอย่างไร?

ก่อนที่จะขับรถบนท้องถนน นอกเหนือจาก ประกันภัยรถยนต์ สิ่งที่ผู้ขับขี่ทุกคนต้องมีคือ "ใบขับขี่" หรือ "ใบอนุญาตขับขี่" ที่เป็นเอกสารสำคัญ ซึ่งออกโดย กรมการขนส่งทางบก เพื่อแสดงให้เห็นว่าบุคคลนั้นๆ มีคุณสมบัติเพียงพอในการขับขี่ โดยใบขับขี่มีการแบ่งประเภทออกไปตามจุดประสงค์ ซึ่งจะต้องเลือก สอบใบขับขี่ใหม่ 2566 ให้ถูกประเภทด้วยเช่นเดียวกัน

ใบอนุญาตขับขี่มีกี่ประเภท?

ตามที่ได้กล่าวในข้างต้นว่า "ใบขับขี่" หรือ "ใบอนุญาตขับรถ" นั้น มีการแบ่งประเภทออกไปตามจุดประสงค์ รวมถึงอายุการใช้งาน และเวลาในการต่อใบขับขี่ก็มีความแตกต่างกันออกไปด้วย ดังนั้นการเลือก สอบใบขับขี่ ผู้สอบจะต้องคำนึงถึงประเภทของใบขับขี่ด้วย

1. ใบขับขี่ ประเภทส่วนบุคคล (บ.) ใบขับขี่ ประเภทแรกที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตากันดีคือ ใบขับขี่ประเภทส่วนบุคคล หรือใบอนุญาตเป็นผู้ขับขี่ประเภทรถส่วนบุคคล โดยรถประเภทนี้จะเป็นรถที่มีแผ่นป้ายทะเบียนพื้นสีขาว มีตัวอักษร และตัวเลขสีดำ แต่ใบขับขี่ประเภทส่วนบุคคลนี้จะไม่สามารถใช้แทนใบขับขี่ประเภททุกประเภท หรือใช้ในการขับขี่รถสาธารณะได้

2. ใบขับขี่ ประเภททุกประเภท (ท.) ใบขับขี่ประเภททุกประเภทคือ ใบอนุญาตเป็นผู้ขับขี่ที่ใช้ได้กับการขับขี่รถสาธารณะหรือรถที่มีป้ายทะเบียนสีเหลือง และยังมีความพิเศษคือ สามารถใช้แทนใบขับขี่ประเภทส่วนบุคคลได้ด้วย

ใบอนุญาตขับขี่มีกี่ชนิด?

นอกจากจะมีการแบ่งใบขับขี่หรือใบอนุญาตเป็นผู้ขับขี่ ออกเป็น 2 ประเภทแล้ว ยังสามารถแบ่งออกตามลักษณะของการใช้งานได้มากถึง 11 ชนิด โดยแต่ละชนิดจะมีหลักเกณฑ์ในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่ ใบขับขี่รถชนิดชั่วคราว, ใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล, ใบขับขี่รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล, ใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ, ใบขับขี่รถยนต์สามล้อสาธารณะ, ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล, ใบขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ, ใบขับขี่รถบดถนน, ใบขับขี่รถแทรกเตอร์, ใบขับขี่รถชนิดอื่น และใบขับขี่สากล

ทำใบอนุญาตขับขี่ใหม่ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง?

เอกสารสำคัญที่ผู้ทำใบขับขี่ ต้องเตรียมไป มีเพียงบัตรประชาชนตัวจริง และใบรับรองแพทย์ที่มีอายุไม่เกิน 1 เดือน (นับหลังจากการเข้าตรวจสุขภาพ) สำหรับผู้ที่เคยมีใบขับขี่แล้วจะต้องใช้ใบรับรองการอบรมมายื่น ในกรณีที่มีการอบรมนอก กรมการขนส่งทางบก 

ใบอนุญาตขับขี่ใหม่ต้องอบรมหรือไม่?

สำหรับผู้ทำใบขับขี่ใหม่ที่ไม่เคยมีใบขับขี่มาก่อนจะต้องเข้ารับอบรมที่สำนักงานเท่านั้น ในการอบรมใบขับขี่จะใช้เวลาอบรมทั้งหมด 5 ชั่วโมง แบ่งออกเป็นการอบรมช่วงเช้าและการอบรมช่วงบ่าย

ขั้นตอนการทำใบอนุญาตขับขี่ มีอะไรบ้าง?

ขั้นตอนการทำใบขับขี่ เริ่มต้นจากการจองคิวล่วงหน้าผ่านทางแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือจองคิวผ่านทางเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก เมื่อทำการจองเรียบร้อยแล้วให้บันทึกภาพยืนยันการจองเพื่อใช้แสดงเป็นหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่เพื่อเข้ารับการทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย การอบรม การสอบข้อเขียน และการสอบปฏิบัติ เมื่อผ่านแล้วถึงจะไปถ่ายรูปเพื่อทำใบขับขี่ พร้อมกับชำระเงินค่าบริการได้เลย ส่วนในกรณีที่ใบขับขี่ใกล้หมดอายุ สามารถต่ออายุล่วงหน้าก่อน 3 เดือน หรือต่อหลังจากหมดอายุไม่เกิน 3 ปี เท่านั้น หากเกินต้องทำสอบใหม่

สรุปเกี่ยวกับการทำใบอนุญาตขับขี่ใหม่ 2566

ปัจจุบัน การทำใบขับขี่ หรือ ใบอนุญาตขับขี่ สามารถทำการจองผ่านทางออนไลน์ได้ จึงเพิ่มความสะดวกสบายในการทำใบขับขี่อย่างมาก สำหรับผู้ที่ต้องใช้รถบนท้องถนน ขอเน้นย้ำอยู่เสมอว่า นอกเหนือไปจากประกันภัยรถยนต์ที่ควรต้องให้ความสำคัญแล้ว ใบขับขี่ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมี เพราะถ้าหากไม่มี ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ นอกจากประกันจะไม่จ่ายค่าสินไหมและไม่รับผิดชอบค่าเสียหาย ยังอาจมีความผิดตามกฎหมายได้