รพ.มาสเตอร์พีซ รับดูแลเคสหน้าผากพัง เยียวยาทั้งรูปลักษณ์และจิตใจ
รพ.มาสเตอร์พีซ รับดูแลเคสหน้าผากพัง พร้อมจัดทีมแพทย์ร่วมประเมินและประสานการรักษา เพื่อช่วยเหลือทั้งร่างกายและจิตใจ
หลังเป็นกระแสสังคมมาพักใหญ่ สำหรับกรณีหญิงสาวท่านหนึ่งทำหัตถการลดหน้าผากจากคลินิกแห่งหนึ่ง ผลปรากฏว่า หน้าผากเน่า พังเสียหาย ล่าสุด โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ นำทีมโดย นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล, ลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มาสเตอร์ สไตล์ พร้อมด้วยนายแพทย์พิเชฐ รุ่งศิริแสงรัตน์ ผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์ทีมแพทย์ และทีมแพทย์หัตถการที่เกี่ยวข้อง 3 ศูนย์ เร่งติดตามจนรับเคสนี้มาดูแล ก่อนเข้าสู่กระบวนการประเมินและรักษาในลำดับถัดไป
ลภัสรดา เลิศภานุโรจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มาสเตอร์ สไตล์ ร่วมสัมภาษณ์กับทีมผู้บริหารและทีมแพทย์มาสเตอร์พีซ เปิดเผยว่า ผู้เสียหายไปทำศัลยกรรมลดขนาดหน้าผากที่คลินิกแห่งหนึ่งเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2566 แล้วเกิดปัญหาแผลเน่าติดเชื้อ ต้องกลับมาดูแลรักษาตัวเองช่วงระยะเวลาหนึ่ง จากนั้นได้รับความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอด เป็นธุระจัดการและเป็นต้นเสียงเพื่อบอกต่อปัญหาไปยังมวลชน โดยผู้เสียหายได้กล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือทั้งร่างกายและจิตใจจากความเดือดร้อนครั้งนี้
"ผู้บริหารและทีมแพทย์ รพ.มาสเตอร์พีซ ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ช่วยเหลือเคสนี้ เรามีหมอเฉพาะทางหลากหลายสาขา โดยเบื้องต้นทีมแพทย์ปรึกษาและประเมินว่า ความช่วยเหลือในการแก้ไขเยียวยา มีความเกี่ยวโยงรวม 3 หัตถการคือ หัตถการเลื่อนไรผม การดูแลผิวพรรณ และการปลูกผม โดยบริเวณความเสียหายจากหัตถการลดขนาดหน้าผากที่เคสไปทำมา ได้ทิ้งรอยแผลค่อนข้างใหญ่ แถมยังไม่ได้ผลลัพธ์ตามจุดประสงค์ ดังนั้นในการรักษาเราจะมุ่งเน้นไปที่การเลื่อนไรผม เพื่อลดขนาดรอยแผลเป็นบริเวณหน้าผาก และช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด ซึ่งจำเป็นต้องมีหัตถการปลูกผมเพื่อทดแทนผมบริเวณด้านหน้าและด้านหลังที่หลุดร่วงเพิ่มเติม"
ลภัสรดา กล่าวต่อไปว่า ในฐานะโรงพยาบาลศัลยกรรมความงาม มาตรฐานการดูแลคนไข้ต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง การแก้ไขจึงค่อนข้างจะต้องใช้ระยะเวลา ซึ่งทีมแพทย์โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซจะลงรายละเอียดในเบื้องต้นให้ทราบว่าต้องดูแลเคสนี้อย่างไรบ้าง
ทีมแพทย์ รพ.มาสเตอร์พีซ ร่วมประเมินและประสานการรักษา
นายแพทย์ณัฐวุฒิ วิวัจนสิรินทร์ แพทย์สาขาวิชาชีพโสต ศอ นาสิก ประจำโรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ กล่าวว่า หัตถการลดหน้าผากไม่ใช่การปลูกผม แต่เป็นการผ่าตัด เราเรียกว่า "เลื่อนไรผม" บางทีก็เรียกว่า "การลดขนาดหน้าผาก" คอนเซปต์คือ การนำเอาหนังบริเวณใบหน้าออก และทำให้ไรผมต่ำลงมา โดยผิวหนังบริเวณที่ทำจะต้องบาดเจ็บน้อยที่สุด และมีแรงตึงน้อยที่สุด
"กรณีของคนไข้รายนี้วิเคราะห์ว่า เกิดจากการผ่าตัดผิดวิธี ผสานกับการดูแลรักษาหลังจากผ่าตัดผิดวิธี จึงนำมาสู่ 3 ปัญหาดังนี้ คือ 1. ตั้งใจไปลดหน้าผาก แต่หน้าผากยังกว้างเหมือนเดิม 2. มีแผลเป็นบริเวณกลางหน้าผาก และ 3. ผมร่วงบริเวณด้านหลัง จากที่ประเมินคนไข้ ตอนนี้คนไข้ยังสามารถลดขนาดหน้าผากได้อย่างน้อย 2 เซนติเมตร แต่ในส่วนของแผลเป็นบริเวณหน้าผาก หลังทำการลดขนาดหน้าผากแล้วจะหายไปบางส่วน ส่วนที่ยังเหลืออยู่จะส่งต่อให้หมอด้านผิวหนังดูแลต่อ ส่วนผมที่ร่วงบริเวณด้านหลัง เรามีหมอปลูกผมดูแลต่อตามลำดับ"
นายแพทย์อรรถกร ถาวรสวัสดิ์ แพทย์ชำนาญการด้านผิวพรรณความงาม และการปรับโครงหน้า กล่าวว่า ในส่วนของผิวหนัง ปัญหาของคนไข้คือเรื่องของเม็ดสีที่ผิดปกติไปจากผิวเดิมคือ มีรอยแดงและรอยดำ และมีผิวหนังบางส่วนที่ซีดลง ตรงนี้เราสามารถใช้กลุ่มของเลเซอร์ในการรักษา เพื่อให้สีผิวดูใกล้เคียงปกติมากขึ้น และอีกส่วนหนึ่งคือ ความเรียบเนียนของผิวหนัง แผลเป็นมีลักษณะนูนและบุ๋มลงไปบางส่วน เราสามารถใช้กลุ่มของเลเซอร์ในการปรับผิวให้ดูเรียบเนียนมากขึ้น ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลาประมาณหนึ่ง แต่ก็จะดีขึ้นจากเดิม
แพทย์หญิงกุลธิดา ลุสวัสดิ์ แพทย์ด้านหัตถการปลูกผมของ 3M Hair Transplant by Masterpiece Hospital กล่าวว่า เรื่องการปลูกผมและการดูแลผม ปกติรากผมที่ขาดเลือด จะสามารถกลับมารักษาและฟื้นฟูได้ในช่วง 6-12 เดือน ในระหว่างที่เรามีกระบวนการรักษาเกี่ยวกับการลดขนาดหน้าผากเพิ่มเติม ด้านงานปลูกผมจะมีการฉีดกระตุ้นรากผม เพื่อไปเลี้ยงบริเวณที่หลุดร่วงให้มากที่สุด เพื่อคงสภาพของรากผมที่ยังอยู่ให้มากที่สุด
"หลังจากพ้นระยะเวลาไปแล้ว เรามั่นใจว่าผมบริเวณนั้นจะสามารถขึ้นใหม่ได้เอง ลำดับถัดไปคือ การพิจารณาปลูกผมบริเวณดังกล่าวเพิ่มเติม ทั้งแผลด้านหลังและอาจจะเป็นไรผมที่ยังมีความบางอยู่ ซึ่งคนไข้ได้ทำการสักไรผมมาก่อนหน้านี้เพื่อทดแทน แต่ทำให้ขาดความมั่นใจ ซี่งทางเราสามารถปลูกผมทับได้ และทำให้ผมด้านหน้ามีความหนาขึ้น ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างความมั่นใจให้กลับมา"
นายแพทย์พิเชฐ รุ่งศิริแสงรัตน์ ผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์ทีมแพทย์ กล่าวเสริมว่า การจะเลือกสถานที่ที่เราจะต้องผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็นด้านความงามหรือเพื่อรักษาโรค ต้องคิดพิจารณา 2 ส่วนคือ สถานพยาบาล กับตัวหมอผู้ทำการรักษา สถานพยาบาลควรมีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง มีการจดทะเบียนห้องผ่าตัดถูกต้อง มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือผ่าตัดหรือเครื่องมือในการช่วยชีวิต
"ในส่วนของแพทย์ก็ต้องดูว่าแพทย์มีความเชี่ยวชาญ เป็นหมอเฉพาะทางจริงๆ หรือเปล่า มีความเชี่ยวชาญในหัตถการที่ทำจริงหรือไม่ ซึ่งทั้ง 2 ส่วนนี้ จะทำให้คนไข้ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ อีกเรื่องที่อยากฝากคือ อย่าเห็นแก่ราคาถูก เพราะว่าเวลาเจอของถูก บางครั้งราคาในการแก้ไขอาจจะแพงกว่ามาก"
ลภัสรดา กล่าวทิ้งท้ายว่า ทุกๆ ปี รพ.มาสเตอร์พีซ ช่วยเหลือดูแลเคสแก้ ทั้งที่เป็นความผิดปกติมาแต่กำเนิด หรือการทำศัลยกรรมผิดพลาด ต้องแก้ไขมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนการทำเพื่อสังคมหรือ CSR ก็มีมาตลอด อย่างก่อนหน้านี้เรารับเคสจมูกที่ไม่สามารถแก้ไขที่ไหนได้ เรียกว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนติดต่อมา เราเห็นปัญหาและสามารถแก้ไขให้ได้ เรายินดีช่วยเหลือเต็มความสามารถ