ถอดรหัสธุรกิจ 'ศรีวัฒนา วู้ดดิ้ง อินดัสทรีส์' ผู้ผลิต-ส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้แถวหน้าของไทย
"ศรีวัฒนา วู้ดดิ้ง อินดัสทรีส์" ผู้เชี่ยวชาญด้านงานไม้ จากโรงงานกรอบรูปเล็กๆ ก้าวสู่ ผู้ผลิต-ส่งออก ผลิตภัณฑ์ไม้รายใหญ่ของไทย
จากจุดเริ่มต้นธุรกิจที่เติบโตจากโรงงานกรอบรูปเล็กๆ กับแนวคิด Continuous Development สู่โรงงานที่มีกำลังการผลิตกว่า 150,000 ชิ้นต่อเดือน ด้วยเครื่องจักรกว่า 100 เครื่อง และพนักงานกว่า 200 ชีวิต คร่ำหวอดในวงการเฟอร์นิเจอร์ไม้มายาวนานกว่า 36 ปี อะไรทำให้ "ศรีวัฒนา วู้ดดิ้ง อินดัสทรีส์" ประสบความสำเร็จในทุกวันนี้ บทความนี้พาไปหาคำตอบพร้อมๆ กัน
ศุภรัตน์ ชูชัยศรี หรือ พิ้งค์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีวัฒนา วู้ดดิ้ง อินดัสทรีส์ จำกัด เล่าว่า พ่อกับแม่ เริ่มต้นธุรกิจจากติดลบ เนื่องจากกู้เงินมาทำร้านขายกรอบรูป ช่วงแรกจ้างพนักงานแค่ 2-3 คน ทั้งยังต้องเรียนรู้การทำธุรกิจทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นผลิตเอง หาลูกค้าเอง โดยคุณพ่อ ขับรถตระเวนนำกรอบรูปไปเสนอขายตามร้านค้าในจังหวัดต่างๆ จนค่อยๆ ขยับขยายกิจการจนมีพนักงานเพิ่มขึ้นถึง 800 คน แต่การมีพนักงานจำนวนมาก ทำให้ธุรกิจต้องเผชิญกับปัญหาด้านต้นทุนครั้งใหญ่ เมื่อมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำภายในประเทศ ส่งผลให้บริษัทฯ ต้องลดจำนวนพนักงาน และนำเข้าเครื่องจักรมาช่วยในการผลิต จากเครื่องจักรไม่กี่เครื่อง ปัจจุบันมีกว่า 100 เครื่อง และลดจำนวนพนักงานเหลือราว 200 คน
"เดิมเราทำกรอบรูป 100% แต่เครื่องจักรเยอะมาก น่าจะทำอะไรได้เยอะกว่านี้ จึงเสนอไอเดียกับพ่อแม่ ให้ลองทำเฟอร์นิเจอร์ไม้ เริ่มจาก ถาดไม้ เก้าอี้ตัวเล็ก โต๊ะข้างเตียง ฯลฯ เมื่อไปได้ดี จึงเริ่มผลิตชิ้นที่ใหญ่ขึ้น ปัจจุบันเราสามารถผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ได้แทบทุกประเภท มีทีมงาน R&D สามารถนำเสนอ หรือปรับปรุงแบบให้ตอบโจทย์ตรงตาม Corporate Identity (CI) ของลูกค้าทุกสไตล์ ทำให้จับลูกค้ารายใหญ่ในกลุ่มห้างร้าน ในไทย และต่างประเทศ อาทิ The TJX Companies ในสหรัฐ, The White Company ในอังกฤษ, Country Road Group ในออสเตรเลีย และแบรนด์ดังอีกหลายเจ้า และยังได้รางวัลการันตีคุณภาพจากสถาบันทั้งในไทย และต่างประเทศอีกด้วย"
ศุภรัตน์ กล่าวต่อไปว่า ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นที่ออกจากโรงงาน มั่นใจได้เลยว่า เป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม้ที่ใช้ในการผลิตเกือบทั้งหมด มาจากสวนป่าปลูก 50% เป็นไม้ในประเทศไทย และอีก 50% เป็นไม้นำเข้าจากซัพพลายเออร์ในสหรัฐอเมริกา ผ่านมาตรฐานการรับรองจาก Forest Stewardship Council (FSC) ซึ่งเป็นองค์กรพิทักษ์ป่าไม้ระดับนานาชาติ โดยทุกๆ 1 ต้นที่ถูกตัดมาใช้ จะมีการปลูกทดแทน 5 ต้น เป็นอย่างน้อย อีกทั้งยังมีการจำกัดค่าฟอร์มัลดีไฮด์ในไม้ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพด้วย
"36 ปีในการทำธุรกิจผลิต และส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้ของเรา ไม่เคยออกงานแสดงสินค้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว เราจะไม่เอาตัวเองไปแข่งกับลูกค้า เพราะสินค้าที่เราผลิตเกินครึ่งเป็นของลูกค้า เราพยายามรักษาลูกค้าเก่า และเสนอขายสินค้าประเภทอื่นๆ ที่เขาไม่เคยซื้อกับเราให้ได้ วิธีนี้เป็นการรักษาลูกค้าเก่า และเพิ่มยอดขายไปในตัว โดยลูกค้าบางเจ้ามี NDA (สัญญารักษาความลับ) ห้ามเอาข้อมูลไปเผยแพร่ โรงงาน จะมีโซนพิเศษสำหรับลูกค้าที่ต้องการเก็บข้อมูลสินค้าเป็นความลับโดยเฉพาะด้วย จุดนี้เองที่เป็นกุญแจสำคัญ นอกเหนือจากคุณภาพและความสามารถในการ Customize สินค้าได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า ที่ทำให้บริษัทฯ สามารถรักษาสัมพันธ์อันดี และความไว้วางใจจากลูกค้ามาได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน"
ศุภรัตน์ กล่าวถึงแผนในอนาคตว่า จะมีการปรับใช้ระบบออโตเมชันให้ได้มากที่สุด เพื่อลด Labour-intensive ประหยัดต้นทุน และเพิ่มขีดความสามารถทางการผลิตในระยะยาว รวมไปถึงการนำหุ่นยนต์เข้ามามีส่วนช่วยในการผลิต ซึ่งมีข้อดีตรงที่ทำงานได้รวดเร็ว 24 ชม. เพื่อไปสู่ Smart Factory ให้ได้ ส่วนความนิยมของการใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ในอนาคต เชื่อว่าเราสามารถทำให้ตัวเองไปแข่งขันกับทั่วโลกได้ ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่งอย่าง จีน เวียดนาม อินโดนีเซีย ข้อได้เปรียบคือ คนไทยมีฝีมือ มีความละเอียดลออ งานฝีมือคนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก อันนี้เป็นสิ่งหนึ่งที่ลูกค้าเขาไว้ใจเรา เราภูมิใจแทนคนไทยเลยว่า ลูกค้าเห็นคุณค่าเราขนาดนี้ แต่ไม่แน่ใจว่าตัวเราเห็นคุณค่าของตัวเองหรือเปล่า
ติดตามอ่านเรื่องราวดีๆ รวมไปถึงบทความที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่จะช่วยให้ข้อคิด แนวคิด และเคล็ดลับในการบริหารธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ที่ เว็บไซต์ หรือ รู้จัก ศรีวัฒนา วู้ดดิ้ง อินดัสทรีส์ เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ sriwatana