มาร์ส เพ็ทแคร์ ผนึก 6 พันธมิตร มุ่งปลูกข้าวโพดและข้าวแบบ Climate Smart Agriculture
มาร์ส เพ็ทแคร์ ประเทศไทย ร่วมลงนามกับ 6 พันธมิตรคู่ค้าข้าวโพดและข้าว เปิดตัวกิจกรรม Climate Actions For A Better Tomorrow ขับเคลื่อนโครงการเกษตรกรรมฟื้นฟู (Regenerative Agriculture) สำหรับข้าวโพดและข้าวซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญของการผลิตอาหารเลี้ยงสัตว์แบบยั่งยืน
มาร์ส เพ็ทแคร์ ประเทศไทย ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการผลิตที่เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม จึงร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับบริษัทคู่ค้า 6 ราย ประกอบด้วยกลุ่มซัพพลายเออร์ผลผลิตข้าวโพดจำนวน 5 ราย และข้าวจำนวน 1 ราย ประกอบด้วย ร้านตรงพานิช บริษัท ส.วิริยะอินเตอร์เทรด จำกัด บริษัท พูลอุดม จำกัด บริษัท วชาไล จำกัด (แสงตะวัน) ห้างหุ้นส่วนจำกัดกรแก้วพืชผล และบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนลไรซ์ แอนด์โปรดักซ์ จำกัด เพื่อดำเนินกิจกรรม "Climate Actions For A Better Tomorrow" โดยมีเป้าหมายที่จะ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตลอดห่วงโซ่การผลิต ผ่านโครงการเกษตรกรรมฟื้นฟู (Regenerative Agriculture) โดยจะเริ่มดำเนินโครงการเกษตรกรรมฟื้นฟูในการปลูกข้าวโพดและข้าว ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญของการผลิต อาหารสัตว์เลี้ยง นำร่องและเป็นโครงการต้นแบบที่จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดลพบุรี
การลงนามดังกล่าวนับเป็นการขับเคลื่อนเป้าหมายบริษัทฯ ที่วางแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 50% ภายในปีพ.ศ. 2573 และบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปีพ.ศ. 2593 ซึ่งโครงการนี้สามารถช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมีส่วนสำคัญในการเพิ่มพูนความอุดมสมบูรณ์และฟื้นฟูดินควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
นายปิยรัฐ อมรฉัตร ผู้อำนวยการด้านการจัดซื้อ ภูมิภาคเอเชีย บริษัท มาร์ส เพ็ทแคร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาร์ส เพ็ทแคร์ ประเทศไทย ผลิต อาหารสัตว์เลี้ยง ภายใต้กรอบความยั่งยืน และหนึ่งในเป้าหมายความยั่งยืนคือ การลดผลกระทบต่อ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งนี้ เกษตรกรรมฟื้นฟู (regenerative agriculture) มุ่งยกระดับสุขภาพและความอุดมสมบูรณ์ของดิน จัดเก็บคาร์บอนและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปรับปรุงคุณภาพของลุ่มน้ำ และเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ ในขณะเดียวกันที่ยังสามารถช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกร โครงการนี้จะเสริมสร้างความร่วมมือที่เข้มแข็งกับเกษตรกรเพื่อจำกัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและก้าวไปสู่การเกษตรแบบเท่าทันภูมิอากาศ หรือ Climate Smart Agriculture โดยเราจะทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์และเกษตรกรเพื่อเสริมวิธีการทำเกษตรที่ดียิ่งขึ้น การใช้ที่ดินอย่างยั่งยืน และการสนับสนุนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มศักยภาพในกระบวนการผลิตข้าวโพดและข้าวอย่างยั่งยืน
นายชรินทร์ ทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ยินดีในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือของทั้ง 7 หน่วยงาน ในฐานะตัวแทนจังหวัดนครราชสีมา ยินดีที่ภาคเอกชนมีความสนใจในการทำเกษตรกรรมฟื้นฟู และร่วมมือกันขับเคลื่อนเรื่องลดผลกระทบจาก การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นวาระสำคัญของทุกภาคส่วน ในส่วนของภาครัฐพร้อมที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อเดินหน้าไปสู่เป้าหมายการ ลดก๊าซเรือนกระจก จากกลุ่มภาคเกษตรกรรม เพราะเป็นอาชีพหลักของประชาชนในจังหวัดนครราชสีมา
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความยั่งยืนในแผนงานทั่วไปของ มาร์ส เพ็ทแคร์ และพันธสัญญาเรื่องภูมิอากาศ สามารถติดตามรายละเอียดได้ ที่นี่