5 แนวทางการป้องกันไข้เลือดออก รับมือและรู้ทันภัยจากยุงลาย

โรคไข้เลือดออก เป็นโรคติดต่อที่เกิดจาก เชื้อไวรัสเดงกี มีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโรคนี้เป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน โดยวันนี้จะมาบอกวิธี การการป้องกันโรคไข้เลือดออก ดังนี้

สาเหตุของโรคไข้เลือดออก

ยุงลาย เป็นพาหะนำโรคไข้เลือดออก โดยยุงลายมี 2 ชนิด ได้แก่ ยุงลายบ้าน และยุงลายสวน ยุงลายตัวเมียจะดูดเลือดคนเพื่อหาอาหาร เมื่อยุงลายตัวเมียดูดเลือดคนที่มีเชื้อไวรัสเดงกี เชื้อไวรัสจะเข้าสู่ตัวยุง และยุงก็จะกลายเป็นพาหะนำโรค เมื่อยุงลายตัวเมียไปดูดเลือดคนอีกคนเชื้อไวรัสก็จะเข้าสู่ร่างกายคนคนนั้น และทำให้เกิดอาการของโรคไข้เลือดออก

อาการของโรคไข้เลือดออก

อาการของโรคไข้เลือดออก มักเริ่มด้วยการมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ตาแดง นอกจากนี้ยังอาจมีเลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดาไหล เลือดออกตามผิวหนัง หรือมีเลือดออกภายในร่างกาย เช่น เลือดออกในทางเดินอาหาร เลือดออกในสมอง ซึ่งหากผู้ป่วยมีอาการรุนแรง อาจเกิดภาวะช็อกและเสียชีวิตได้

5 แนวทางการป้องกันโรคไข้เลือดออก

1. กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย

แหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ได้แก่ ภาชนะที่มีน้ำขังอยู่ เช่น โอ่ง กระถางต้นไม้ กะละมัง ถังน้ำ ยางรถยนต์เก่า เป็นต้น การป้องกัน โรคไข้เลือดออก ที่ดีคือ กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายให้หมดไป ดังนี้

• ปิดฝาภาชนะที่มีน้ำขังให้มิดชิด
• เปลี่ยนน้ำในภาชนะที่ใส่น้ำไว้เป็นประจำทุกสัปดาห์
• เทน้ำออกจากภาชนะที่ไม่ใช้แล้ว
• ระบายน้ำออกจากภาชนะที่ใส่น้ำไว้
• ทำความสะอาดบริเวณรอบบ้านให้โล่ง ไม่ให้มีมุมอับทึบ

2. ทายากันยุง

การใช้ยากันยุง เป็นการป้องกันโรคไข้เลือดออกที่สะดวก โดยยากันยุงมีหลายชนิด มีทั้งแบบทา ฉีดพ่น และแบบจุด ซึ่งในการเลือกยากันยุง ควรเลือกชนิดที่มีสารออกฤทธิ์ที่มีประสิทธิภาพ และทาให้ทั่วร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณแขน ขา ข้อพับ ศีรษะ และคอ

3. กางมุ้ง

อีกหนึ่งวิธีการป้องกันโรคไข้เลือดออกที่ดีคือ การนอนกางมุ้ง โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยุงลายออกหากิน การเลือกมุ้งควรเลือกมุ้งที่มีตาข่ายละเอียด เพื่อป้องกันไม่ให้ยุงลอดผ่านเข้าไปได้

4. ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง

การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและสามารถต่อสู้กับโรคได้ดีขึ้น

5. ฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

ปัจจุบันมีวัคซีนไข้เลือดออกที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก โดยวัคซีนไข้เลือดออกสามารถช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ ถึงจะไม่สามารถป้องกันโรคได้ 100% แต่ฉีดไว้ก่อนก็ย่อมดีกว่า

นอกจาก 5 แนวทางการป้องกัน โรคไข้เลือดออก ข้างต้นแล้ว ทุกคนควรร่วมมือกันเฝ้าระวัง ด้วยการสำรวจบริเวณบ้านเป็นประจำ เพื่อหาแหล่งเพาะพันธุ์ ยุงลาย รวมถึงใส่ใจสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัว โดยหากมีอาการไข้สูงติดต่อกันเกิน 3 วัน ควรรีบไปพบแพทย์ทันที นอกจากนี้ควรติดตามข่าวสารเกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกอย่างใกล้ชิด เพื่อจะได้รู้ทันสถานการณ์และเตรียมรับมือได้อย่างเหมาะสม