MUT และ GalaxySpace ร่วมจัดตั้งสถานีดาวเทียมภาคพื้นความถี่สูงในมหาวิทยาลัย
MUT ร่วมกับ GalaxySpace จัดตั้งสถานีดาวเทียมภาคพื้นความถี่สูงในมหาวิทยาลัย ร่วมพัฒนาระบบสื่อสารอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม มุ่งสร้างกำลังคนด้านเทคโนโลยีอวกาศเพื่อขับเคลื่อนไทยสู่ผู้นำ Space Economy ในอาเซียน
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร หรือ MUT จับมือ GalaxySpace บริษัทผู้ผลิตและพัฒนาดาวเทียมระบบสื่อสารบรอดแบนด์วงโคจรต่ำ จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมกันพัฒนาและทดสอบสมรรถนะระบบเครือข่ายการสื่อสารบรอดแบนด์แบบบูรณาการ ทั้งส่วน ดาวเทียม สื่อสารวงโคจรระดับต่ำ และสถานีดาวเทียมภาคพื้น ภายใต้ "Mini-Spider" ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่มีการจัดตั้งสถานีดาวเทียมภาคพื้นที่ใช้ความถี่สูงย่าน Q/V ในมหาวิทยาลัย เพื่อที่จะศึกษาวิจัยเทคโนโลยีด้านดาวเทียมวงโคจรระดับต่ำ (Low-Earth Orbit หรือ LEO) ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ MUT ในฐานะผู้นำด้านการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศมาตั้งแต่เริ่มต้นก่อตั้งมหาวิทยาลัยและพัฒนาต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ที่พร้อมสร้างผลิตภัณฑ์และบุคลากรเพื่อตอบสนองความต้องการกำลังคนด้านเทคโนโลยีอวกาศ และขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจอวกาศ (New Space Economy) ในภูมิภาคอาเซียน
ภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ GalaxySpace ได้นำเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตผ่าน ดาวเทียม ทั้งส่วนสถานีเชื่อมโยงสัญญาณสำหรับผู้ให้บริการ ซึ่งมีติดตั้งอยู่ที่ มหาลัยเทคโนโลยีมหานคร และส่วนสถานีลูกข่าย สำหรับผู้ใช้บริการ เป็นอุปกรณ์ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย มีทั้งแบบติดตั้งอยู่กับที่และติดตั้งบนยานพาหนะ ทางด้าน MUT ได้จัดตั้งศูนย์วิจัยเทคโนโลยีอวกาศ และสร้างสถานีดาวเทียมภาคพื้น พร้อมระดมทีมนักวิจัย คณาจารย์ และบุคลากรที่มีความชำนาญการ เพื่อศึกษาวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีด้านดาวเทียมวงโคจรระดับต่ำนี้
รวมถึงทำการทดลองและทดสอบประสิทธิภาพการทำงาน ร่วมกับทีมวิศวกรจากทาง GalaxySpace ซึ่งหลังจากทำการทดลองใช้งานครั้งแรกเมื่อมีนาคมที่ผ่านมา ผลปรากฏว่าสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมได้จริง และสามารถนำอินเทอร์เน็ตของผู้ประกอบการไทยไปทดลองใช้งานผ่านกลุ่มดาวเทียมวงโคจรต่ำได้เป็นครั้งแรกในโลก
รศ.ดร.ภานวีย์ โภไคยอุดม อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร เผยว่า ผมเห็นศักยภาพในหลายๆ ด้านของประเทศไทย และเล็งเห็นโอกาสการเติบโตของอุตสาหกรรมอวกาศในอนาคต ซึ่งเป็นกลไกการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่ ด้วยบริการด้านอวกาศที่มีความหลากหลายโดยอาศัยเทคโนโลยีชั้นสูง เพื่อสร้างนวัตกรรมต่างๆ ที่สามารถพัฒนาและนำเอาเทคโนโลยีอวกาศไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้หลายกลุ่มอุตสาหกรรม MUT เรามีความสนใจด้านเทคโนโลยีอวกาศมาตั้งแต่เริ่มต้นก่อตั้งมหาวิทยาลัยดาวเทียมไทพัฒ เป็นผลงานการออกแบบและสร้างโดยคนไทย
รศ.ดร.ภานวีย์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นบุคลากรของมหาวิทยาลัยเรา และเรามีการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันตั้งแต่ต้นน้ำเป็นส่วนประกอบต่างๆ ของ ดาวเทียม ขนาดเล็ก ตลอดจนระบบของสถานีภาคพื้นสู่ปลายน้ำที่เป็นการนำข้อมูลจากดาวเทียมมาใช้ประโยชน์ในงานต่างๆ ซึ่งเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันว่า MUT มีความพร้อมในทุกๆ ด้านทั้งเรื่องสถานที่ องค์ความรู้ รวมถึงบุคลากรที่มีความชำนาญการด้านดาวเทียมระดับแนวหน้าของประเทศ ความร่วมมือกับ GalaxySpace ในการจัดตั้งสถานีดาวเทียมภาคพื้นในมหาวิทยาลัยของเรา ถือเป็นโอกาสสำคัญของ MUT ที่จะมีบทบาทในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านดาวเทียมวงโคจรระดับต่ำกับบริษัทฯ ระดับแนวหน้าของโลก
"นอกจากนี้ยังเป็นการพัฒนาศักยภาพและยกระดับขีดความสามารถของบุคลากรด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมอวกาศ รวมถึงเปิดโอกาสให้นักศึกษาและคณาจารย์ ได้หาประสบการณ์และเก็บเกี่ยวองค์ความรู้เชิงลึกด้านเทคโนโลยีอวกาศ เพื่อนำไปปรับใช้พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน และในอนาคตบุคลากรเหล่านี้จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยเติมเต็มความพร้อมด้านเทคโนโลยีอวกาศ เพื่อช่วยพัฒนาและขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การผู้นำด้านเศรษฐกิจอวกาศและเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมอวกาศของภูมิภาคได้อย่างแท้จริง" รศ. ดร.ภานวีย์ กล่าว
นายปีเตอร์ หวง ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจระหว่างประเทศ GalaxySpace กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีภูมิรัฐศาสตร์ตั้งอยู่ในจุดที่ได้เปรียบต่อการพัฒนาศักยภาพของประเทศให้เติบโตได้ในหลายๆ ด้าน จึงเป็นจุดยุทธศาสตร์แห่งเศรษฐกิจที่สำคัญแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความร่วมมือระหว่าง GalaxySpace และ MUT ในครั้งนี้ เป็นการวิจัยและพัฒนาระบบเครือข่ายสื่อสารบรอดแบนด์แบบบูรณาการที่จะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ทั้งในด้านการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรที่มีความชำนาญการเฉพาะด้านเทคโนโลยีอวกาศของ MUT ช่วยยกระดับการเรียนการสอนและเพิ่มพูนทักษะให้กับนักศึกษาขึ้นไปอีกขั้น ผ่านการฝึกฝนและสร้างเสริมประสบการณ์จริง
"ทาง GalaxySpace ยินดีถ่ายทอดความรู้และร่วมพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศภายในประเทศไทยและช่วยประสานงานกับหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพด้านเทคโนโลยีอวกาศให้สามารถแข่งขันในระดับนานาชาติได้ และอีกหนึ่งความตั้งใจของเราคือ สามารถพัฒนานวัตกรรมทางดาวเทียมและการใช้ประโยชน์จากดาวเทียมกับผู้ประกอบการไทย เพื่อให้คนไทยได้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมที่มีความเร็วและประสิทธิภาพสูง" นายปีเตอร์ กล่าว
ปัจจุบันมีการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมที่หลากหลาย อาทิ ดาวเทียมไทยคม 4 หรือไอพีสตาร์ เป็นดาวเทียมวงโคจรค้างฟ้า หรือวงโคจรประจำที่ (Geostationary Orbit : GEO) ที่มีระดับความสูงจากพื้นโลกโดยประมาณ 35,786 กิโลเมตร
ทั้งนี้ ด้วยขีดจำกัดด้านระยะห่างจากพื้นโลกของดาวเทียมแบบ GEO จึงมีการพัฒนาระบบสื่อสารอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมแบบวงโคจรต่ำ หรือ LEO Satellite ซึ่งห่างจากโลกเพียง 500-2,000 กิโลเมตร ซึ่งมีผู้ให้บริการดาวเทียมรายใหญ่หลายแห่งที่อยู่ต่างประเทศ ได้แก่ Starlink, OneWeb เป็นต้น แต่ยังไม่สามารถให้บริการเชิงพาณิชย์ในประเทศไทยได้ เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ สำนักงาน กสทช. ต้องออกกฎระเบียบให้รัดกุม เพื่อการแข่งขันที่เป็นธรรมและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาวิจัย ทดลองและทดสอบเทคโนโลยีก่อนการใช้งานเชิงพาณิชย์เพื่อนำข้อมูลต่างๆ มาช่วยในการออกกฎระเบียบที่เหมาะสม
GalaxySpace ตอบโจทย์อินเทอร์เน็ตดาวเทียมอย่างมีประสิทธิภาพ
โครงการพัฒนาและทดลองทดสอบระบบ "Mini-Spider" ของ GalaxySpace ที่ร่วมกับ MUT นี้ ประกอบไปด้วย
1.) ส่วนสถานีดาวเทียมภาคพื้น ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตมีอุปกรณ์เรียกว่าสถานีเชื่อมโยง ระบบนี้จะนำอินเทอร์เน็ตภาคพื้นหรืออินเทอร์เน็ตบ้าน ขึ้นสู่กลุ่มดาวเทียมบรอดแบนด์ และส่วนผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ต มีอุปกรณ์เรียกว่าสถานีลูกข่าย ที่ผู้ใช้งานสามารถนำโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมาเชื่อมต่อได้โดยตรงทั้งแบบใช้สาย (LAN) หรือแบบไร้สาย (WIFI)
2.) ส่วนอวกาศหรือดาวเทียมสื่อสารบรอดแบนด์ เป็นกลุ่มดาวเทียมที่จะถูกส่งขึ้นสู่วงโคจรระดับต่ำ จะทำหน้าที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระหว่างฝั่งสถานีเชื่อมโยงและสถานีลูกข่าย โดยจะมีแผนปล่อยดาวเทียมหลายร้อยดวง ให้กระจายตัวครอบคลุมทั่วโลกสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ ระบบ Mini-Spider จึงเป็นเหมือนอุปกรณ์นำอินเทอร์เน็ตจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งโดยไม่จำเป็นต้องเดินสายสัญญาณ เพียงแค่มีพื้นที่เปิดโล่งเห็นท้องฟ้าและมีระบบจ่ายไฟฟ้า (ไฟบ้าน) ก็สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ทุกพื้นที่ในประเทศไทย
เทคโนโลยีด้านดาวเทียมของ GalaxySpace เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้คลื่นความถี่ย่าน Q/V ที่เป็นคลื่นความถี่สูง ที่มีแนวโน้มจะใช้งานมากขึ้นในอนาคตและเป็นคลื่นความถี่ที่ยังไม่เคยมีการใช้มาก่อนในประเทศไทย ซึ่งต้องเฝ้าระวังและป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายหรือรบกวนระบบที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ด้วยความร่วมมือจากสำนักงาน กสทช. ที่คอยให้คำแนะนำ ช่วยเหลือและให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี ทั้งเรื่องการใช้ช่องสัญญาณดาวเทียม การใช้คลื่นความถี่ การนำเข้าอุปกรณ์วิทยุคมนาคม รวมถึงการอนุญาตให้จัดตั้งเป็นพื้นที่ Sandbox เป็นระยะเวลา 5 ปี สำหรับพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครในกรุงเทพฯ และระยะเวลา 1 ปี สำหรับพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครในอีก 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พิษณุโลก ชัยนาท นครนายก ระยอง และภูเก็ต ทำให้โครงการศึกษาวิจัย ทดลองและทดสอบนวัตกรรมเทคโนโลยีดาวเทียมที่ MUT ร่วมกับ GalaxySpace สามารถดำเนินการตามแผนวิจัยที่วางไว้ได้เป็นอย่างดี
รศ.ดร.ภานวีย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ดาวเทียมวงโคจรระดับต่ำจะอยู่ที่ระดับความสูงไม่เกิน 2,000 km ขณะที่ดาวเทียมของ GalaxySpace อยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 500 km ทำให้ระยะทางระหว่างพื้นโลกไปยังดาวเทียมค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับดาวเทียมในวงโคจรอื่นๆ จากการทดสอบเบื้องต้นของระบบ Mini-Spider เราได้ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุดประมาณ 250 Mbps (1) อัปโหลดสูงสุดประมาณ 210 Mbps และมี Latency (2) น้อยสุดประมาณ 32 ms เปรียบเทียบให้เข้าใจได้ง่ายๆ ก็คือ การสื่อสารอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมของ GalaxySpace จะมีประสิทธิภาพค่อนข้างสูงกว่าการใช้อินเทอร์เน็ตของโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ตโฟนที่ใช้เทคโนโลยี 5G ในประเทศไทย (3) ที่มีความเร็วดาวน์โหลดสูงสุดประมาณ 175 Mbps อัปโหลดสูงสุดประมาณ 23 Mbps และ Latency ประมาณ 28-34 ms เห็นได้ว่าระบบสื่อสารอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมของ GalaxySapce สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการให้บริการได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ มีความเร็วสูงและมีการตอบสนองต่อการรับส่งข้อมูลอย่างรวดเร็ว ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการสื่อสารและข้อมูลที่สะดวกสบายเหมือนใช้อินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ในเขตเมือง
"MUT เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนด้านวิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมชั้นนำของประเทศไทย เราไม่เพียงมุ่งเน้นเรื่องการศึกษาแบบองค์รวมแต่ยังมุ่งมั่นขับเคลื่อนเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจอวกาศยุคใหม่ของประเทศไทย เราเล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพ เพื่อยกระดับขีดความสามารถของบุคลากร เราเชื่อมั่นว่าการร่วมมือกับ GalaxySpace ครั้งนี้ จะสามารถตอบสนองความต้องการกำลังคนด้านเทคโนโลยีอวกาศ และพร้อมส่งเสริมสร้างผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมอวกาศ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยในทุกๆ ด้าน ผลักดันไทยก้าวสู่ผู้นำด้านเศรษฐกิจอวกาศในอาเซียนได้อย่างเป็นรูปธรรม" รศ.ดร.ภานวีย์ กล่าวสรุป
หมายเหตุ :
- (1) Megabit per second หรือ Mbps คือหน่วยความเร็วของการรับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ต
- (2) ค่าความเสถียรที่เกิดขึ้นในการรับส่งข้อมูล (Packet) ระหว่างเครื่องลูกข่าย (Client) กับเครื่องแม่ข่าย (Server) ยิ่งค่าตัวเลขนี้ยิ่งต่ำยิ่งดี หน่วยวัด เรียกว่า มิลลิวินาที (Milliseconds) มีหน่วยย่อคือ ms
- (3) Barometer of mobile Internetconnections in Thailand