'วราวุธ' ชี้4รมต.ทำงานต่อเนื่องได้ แต่อย่าเอาเปรียบกัน
“วราวุธ” ชี้ 4 รมต. ทำงานต่อเนื่องได้ แต่อย่าเอาเปรียบกัน เปรยรอ “ประยุทธ์” ชี้ชัดลงการเมืองค่อยวิจารณ์
เมื่อวันที่ 8 ต.ค.61 นายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าว 4 รัฐมนตรีที่เป็นแกนนำก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) จะลาออกจากตำแหน่งเมื่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีผลบังคับใช้ในวันที่ 11 ธ.ค. แล้วจึงลาออกประมาณวันที่ 12-13 ธ.ค. ว่า หากจะว่ากันตามกฏหมายแล้วในกฎหมายก็ชี้ชัดแล้วว่าไม่จำเป็นต้องลาออก และถ้าลาออกในช่วงนี้แล้วมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. 2562 ก็จะเหลือเวลาเพียงสามเดือน ดังนั้นหากมีการปรับครม. รัฐมนตรีใหม่ที่เข้ามาจะมีเวลาทำงานเพียงสามเดือนเท่านั้นคงไม่สามารถสานต่องานใดได้ ก็คงจะขาดตอนดังนั้น หากเป็นเช่นนั้นคิดว่าหากพูดถึงความต่อเนื่องของงานถ้าอยู่ทำงานต่อไปคงจะเหมาะสมกว่า
แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ว่าแต่ถ้าพูดถึงประเด็นความเหมาะสมว่าเหมาะสมหรือไม่คนที่ทำงาน เป็นถึงระดับเสนาบดีก็ควรจะใช้วิจารณญาณในการทำงานและขอให้วางตัวเป็นกลางให้มากที่สุด ขอให้คิดถึงประโยชน์ของประเทศชาติในการทำงานในแต่ละกระทรวง ทบวง กรม เป็นสิ่งสำคัญมากกว่า
ส่วนกรณีที่บางฝ่ายมองว่าอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญในกรณีขาดคุณสมบัติ เนื่องจากเป็นคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) นั้น หากเป็นเช่นนั้นคงเป็นเรื่องของตัวบทกฏหมายซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) คงต้องพิจารณาเรื่องคุณสมบัติว่าขาดหรือไม่
“สมัยก่อนเวลารัฐบาลยุบสภาก็ไม่เห็นมีรัฐมนตรีคนไหนลาออกกันไม่ใช่หรือ ก็เห็นรักษาการกันต่อไปจนกระทั่งมีรัฐบาลใหม่แล้วก็ส่งไม้ต่อ ก็เห็นยังอยู่กันจนนาทีสุดท้าย ซึ่งครั้งนี้ก็คล้ายๆกัน และในวันนี้ทุกคนก็ตั้งหน้าที่จะเดินหน้ากันไปให้ถึงวันเลือกตั้ง 24 กุมภาพันธ์ 2562 และถ้าเกิดออกในช่วงนี้ก็อย่างที่ผมบอกแล้วว่าก็ต้องปรับครม. เหลือเวลาเพียง 3-4 เดือน คงไม่ใช่เรื่องง่าย” แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์
เมื่อถามว่าไม่กลัวว่าพรรคการเมืองของรัฐบาลจะเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นๆ นายวราวุธ กล่าวว่า “คงต้องขอให้ใช้วิจารณญาณในการทำงาน แต่ที่ผ่านมาไม่ว่ากี่สมัยเราก็เห็นเป็นอย่างนี้ทั้งนั้น”
“ส่วนกรณีที่มีเสียงวิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ไม่ลงสนามมาเล่นกันอย่างแฟร์ๆหรือ ผมก็ยังไม่เห็นว่าท่านจะประกาศตัวเลยว่าจะลงสังกัดพรรคการเมืองหรือไม่ แต่บอกเพียงว่าท่านสนใจทางการเมือง ซึ่งเมื่อเป็นนายกฯมากว่า 4 ปี ถ้าไม่สนใจการเมืองก็คงเป็นเรื่องแปลกแล้ว เรามารอให้ถึงวันที่พล.อ.ประยุทธ์ประกาศตัวชัดเจนก่อนดีกว่าแล้วสังคมค่อยมาตั้งข้อสังเกตหรือตั้งคำถามกันอีกครั้งว่า ท่านจะดำเนินการอย่างไร รอดูก่อนว่าท่านจะสมัครพรรคไหน จะสนับสนุนพรรคไหน นั่นเป็นเรื่องในอนาคต เพราะวันนี้ทุกอย่างที่เราพูดกันเป็นเรื่องคาดเดากันไปเองทั้งนั้น แต่เรายังไม่รู้เลยว่าเมื่อถึงเวลาแล้วรัฐมนตรีทั้ง 4 คนหรือแม้แต่พล.อ.ประยุทธ์เองจะสมัครเป็นส.ส.หรือไม่ รับตำแหน่งอะไรหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องในอนาคตเมื่อถึงเวลาเราค่อยมาตอบคำถามกันดีกว่า”แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์
เมื่อถามว่าแต่มีเสียงวิจารณ์ว่าขอให้มีมารยาททางการเมืองกันด้วย นายวราวุธ กล่าวว่า แต่ละสมัยที่ผ่านมาก็เห็นรัฐบาลรักษาการยังทำงานต่อเนื่องจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ เพื่อให้งานต่อเนื่องกันไปได้ และการทำงานของประเทศไม่หยุดหรือสะดุดลง แต่ก็อย่ามาจ้องเอารัดเอาเปรียบกัน เพราะเหลือเวลาอีกไม่นาน
นายวราวุธ กล่าวถึงกรณีที่พรรคการเมืองใหม่ๆ พยายามเปิดตัวให้เป็นที่รู้จักของประชาชนมากขึ้นในช่วงนี้ว่า ถือเป็นสิ่งที่ดีที่มีผู้ให้ความสนใจกับการเมืองมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการเป็นพรรคการเมืองใหม่ในช่วงนี้ซึ่งเป็นภายใต้กรอบกฎหมายนั้นไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ การตั้งพรรคหรือการดำรงคงอยู่ของพรรคการเมืองมีกลไกซับซ้อนมากกว่าที่ผ่านมาอย่างมาก ทั้งเรื่องสาขาพรรค ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด ทำให้จะต้องมีฐานสมาชิกอยู่อย่างมหาศาล เช่น หากพรรคใดต้องการส่งผู้สมัครให้ครบ 350 เขตต้องมีสมาชิกไม่ต่ำกว่า 40,000 คนซึ่งในปัจจุบันพรรคการเมืองที่มีสมาชิกมากถึงขนาดนั้นก็มีเพียงสองพรรคใหญ่เท่านั้นในขณะที่พรรคการเมืองอื่นๆ การจะหาสมาชิกได้ขนาดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นคงต้องให้กำลังใจกันต่อไป