สหรัฐชะลอเก็บภาษีจีนหนุนดาวโจนส์ทะยานเกือบ400จุด

สหรัฐชะลอเก็บภาษีจีนหนุนดาวโจนส์ทะยานเกือบ400จุด

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันอังคาร (13ส.ค.)ทะยานเกือบ400 จุด ขานรับข่าวที่ว่า สหรัฐได้ชะลอการเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนออกไปเป็นวันที่ 15 ธ.ค. จากเดิมที่มีกำหนดในวันที่ 1 ก.ย. พร้อมกับถอดสินค้าบางประเภทออกจากบัญชีรายการสินค้าของจีนที่จะถูกเก็บภาษีครั้งใหม่

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 372.54 จุดหรือ 1.44% ปิดที่ 26,279.91 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 42.48 จุดหรือ 1.47% ปิดที่ 2,926.23 จุดและดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวขึ้น 152.95 จุดหรือ 1.95% ปิดที่ 8,016.36 จุด

สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) ประกาศถอดสินค้าบางประเภทออกจากบัญชีรายการสินค้าของจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่ โดยระบุถึงปัจจัยด้านสุขภาพ, ความปลอดภัย และความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งสินค้าดังกล่าวจะไม่ถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอีก 10% นอกจากนี้ ยังระบุว่า การเก็บภาษีต่อสินค้าประเภทอื่นจะมีการชะลอออกไปจนถึงวันที่ 15 ธ.ค.

ทั้งนี้ สินค้าที่ได้รับการชะลอการจัดเก็บภาษี ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ แล็ปท็อปคอมพิวเตอร์ คอนโซลวิดีโอเกม ของเล่น จอมอนิเตอร์ รองเท้า และเสื้อผ้า

การประกาศดังกล่าวของยูเอสทีอาร์มีขึ้นในวันนี้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนมีกำหนดเจรจาการค้าในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า

ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐใกล้ที่จะเกิดภาวะ inverted yield curve ในวันนี้ ซึ่งเป็นภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอยู่สูงกว่าพันธบัตรระยะยาว โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีใกล้ดีดตัวเหนืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งจะบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย

เมื่อเวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 1.658% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1.685% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ขยับขึ้นสู่ระดับ 2.135%

ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน  ซึ่งการเกิดภาวะ inversion ของเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเป็นการส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มเผชิญภาวะถดถอย