'บีทีเอส' แจง 4 ประเด็นต่ออายุสัมปทานสายสีเขียว
เปิด 4 ข้อเสนอบีทีเอส แจงคณะกรรมาธิการค่าโง่ ปมขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ยืนยันควบคุมค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 65 บาท พร้อมแบ่งรายได้ให้กรุงเทพมหานครหากได้ผลตอบแทนมากพอ
โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนและรถไฟฟ้า (บีทีเอส) สภาผู้แทนราษฎร นายคริส โปตระนันทน์ และนาย ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ร่วมกันแถลงผลประชุมคณะกรรมาธิการฯ ในวันนี้(14 ส.ค.62) สรุปว่าที่ประชุมเปิดให้ผู้แทนบีทีเอส ชี้แจงในประเด็นการต่ออายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยมีรายละเอียดคือ
1. เป็นการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน เพราะเป็นวิธีการที่จะทำให้ค่าโดยสารระยะยาวถูกลง และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนได้มากขึ้น โดยการต่ออายุสัมปทานไม่จำเป็นต้องรอให้หมดสัญญาสัมปทานเดิมในปี 2572 ก่อน หากกรุงเทพมหานครต้องการดำเนินการเอง ก็ทราบว่าไม่มีงบประมาณเพียงพอ ฉะนั้นจึงมีการนำกระบวนการตามหลักสากลมาช่วย ในกรณีที่ภาครัฐขาดเงินลงทุน โดยมุ่งหวังให้เกิดประโยชน์กับประชาชนสูงที่สุด
2. การวางกรอบเวลาการต่ออายุสัมปทาน 30 ปี หลังจากปี 2572 มาจากความต้องการนำรายได้ในอนาคตมาแก้ปัญหาให้ค่าโดยสารในปัจจุบันถูกลง และเพื่อจัดสรรเงินในปัจจุบันให้กรุงเทพมหานครรับภาระน้อยลง ซึ่งบีทีเอสยืนยันว่าระยะเวลาสัมปทานที่สั้นกว่านี้ไม่สามารถเป็นไปได้
สรุปข้อเสนอของบีทีเอสมีทั้งหมด 4 ข้อ
1.จัดเก็บค่าโดยสารตามระยะทางสูงสุดไม่เกิน 65 บาท
2.ขอต่ออายุสัมปทานให้สิ้นสุดในปี พ.ศ.2602 โดยทางบริษัทจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด
3.จะมีการหักค่าใช้จ่ายเพื่อมอบให้กรุงเทพมหานครตั้งแต่ปี 2573 จนถึงสิ้นสุดอายุสัญญาร่วมทุน
และ4.บริษัทจะแบ่งรายได้ให้กรุงเทพมหานคร หากมีผลตอบแทนสูงมากพอ แต่ยังไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะแบ่งอย่างไร
