บทพิสูจน์อาลีบาบา"ราชาธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ"
อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิง รายงานผลประกอบการช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย.สดใสเกินคาดอานิสงส์จากการรุกธุรกิจในพื้นที่ที่มีการพัฒนาน้อยและตอกย้ำว่าธุรกิจของยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซรายนี้ยังแข็งแกร่งท่ามกลางบรรยากาศทางธุรกิจที่ท้าทายอย่างยิ่ง
อาลีบาบารายงานผลประกอบการประจำไตรมาสเดือนมิถุนายนปี2562 มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 42% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 16,471 ล้านดอลลาร์ มีกำไรสุทธิ 3,096 ล้านดอลลาร์ จากจำนวนผู้ใช้งานในมาร์เก็ตเพลซที่จีนในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง เพิ่มขึ้นเป็น 674 ล้านคน ส่วนผู้ใช้งานผ่านมือถือมีจำนวน 755 ล้านคน
แดเนียล จาง ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ)กล่าวว่า อาลีบาบา จะยังคงเดินหน้าเพิ่มจำนวนฐานลูกค้า ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน เพื่อให้บริษัทเติบโตต่อไป รวมทั้งลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ สำหรับธุรกิจคู่ค้า
ปัจจุบัน เถาเป่า บริษัทในเครือของอาลีบาบามีลูกค้าใหม่ที่มาจากพื้นที่ชนบทห่างไกลในสัดส่วนกว่า 70% และยอดขายสุทธิสินค้าในทีมอลล์เติบโต 34% ส่วนซูเปอร์มาร์เก็ตเหอหม่า แบบลูกค้าบริการตนเองมีเพิ่มเป็น 150 แห่ง ใน 17 เมือง
ขณะที่จำนวนคำสั่งซื้อในลาซาดาเพิ่มขึ้นมากกว่า 100%รายได้จากธุรกิจคลาวด์ของอาลีบาบาเพิ่มขึ้น 66% และบริการวิดีโอสตรีมมิ่งยูกูมีผู้สมัครใช้งานเพิ่มขึ้น 40%
ทั้งนี้ ท่ามกลางภาวะอิ่มตัวของตลาดอี-คอมเมิร์ซในเมืองใหญ่ ซึ่งเหล่ากูรูต่างคาดการณ์ว่าปัญหานี้จะส่งผลกระทบต่อยอดขายหรือส่วนแบ่งตลาดของอาลีบาบาโดยตรง แต่ในความเป็นจริง อาลีบาบากลับครองส่วนแบ่งตลาดได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน อาลีบาบา ยังคงเป็นอี-คอมเมิร์ซใหญ่สุดอันดับ1 รองลงมาคือเจดีดอทคอม และอันดับ3 พินตัวตัว
อาลีบาบา ยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซของจีน ดำเนินธุรกิจแตกต่างจากอเมซอนของสหรัฐ เนื่องจากอเมซอนทำธุรกิจเอง เปิดร้านเอง ส่วนอาลีบาบานั้น ตั้งแต่เริ่มต้นทำธุรกิจ ก็ดำเนินบทบาทเป็นแค่เพียงแพลตฟอร์ม ทำให้อเมซอนเป็นห้างออนไลน์ แต่อาลีบาบาไม่ใช่ห้างออนไลน์ แต่เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้บริษัทเล็กๆ สามารถทำร้านออนไลน์ของตัวเองได้
และอาลีบาบาก็ต่างจากเจดีดอทคอม ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซอีกรายของจีน เนื่องจากเจดีดอทคอมใช้โมเดลธุรกิจคล้ายๆ อเมซอน คือเป็นห้างใหญ่ในโลกออนไลน์ และเจดีดอทคอมเน้นจับมือกับหุ้นส่วนธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ในประเทศต่างๆ แต่อาลีบาบาเน้นจับมือกับรัฐบาลและร่วมพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในประเทศนั้นๆ
การเปิดเผยตัวเลขผลประกอบการที่ดีเกินคาดของอาลีบาบา มีขึ้นหลังจากเทนเซนต์ บริษัทสื่อโซเชียล และเกมรายใหญ่สัญชาติจีน ประกาศกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 35% เนื่องจากธุรกิจเกมออนไลน์ฟื้นตัว แต่รายรับโดยรวมกลับต่ำกว่าที่คาดการณ์ เพราะศักยภาพร้อนแรงของไบต์แดนซ์ สตาร์ทอัปดาวรุ่งมูลค่าสูงสุดในโลกซึ่งเป็นบริษัทแม่ของติ๊กต็อกโกยส่วนแบ่งในตลาดโฆษณาออนไลน์ได้มากขึ้น
ในไตรมาสเดือนเม.ย.-มิ.ย. เทนเซนต์ โฮลดิงส์ เปิดเผยว่า กำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้น 35% คิดเป็นมูลค่า 24,100 ล้านหยวนสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เฉลี่ย 20,700 ล้านหยวน แต่การชะลอตัวของธุรกิจโฆษณาออนไลน์ทำให้รายได้จากการโฆษณาออนไลน์เพิ่มขึ้นแค่16% เท่านั้น ลดลงจากที่เคยเพิ่มขึ้น 39% ในไตรมาสเดียวกันของปี 2561
เทนเซนต์ให้เหตุผลว่ามีผู้ให้บริการวิดีโอโฆษณาสินค้าแบบสั้นเพิ่มมากขึ้น โดยธุรกิจโฆษณาออนไลน์คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 20% ของรายได้รวมของเทนเซนต์ และบริษัทก็มองว่าผลกระทบทางลบจะยังมีต่อไปอย่างน้อยก็ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แน่นอนว่าผู้ให้บริการวิดีโอสั้นที่เทนเซนต์กล่าวถึงจะเป็นใครไม่ได้ นอกจากแอพพลิเคชันวิดีโอสั้นของบริษัทไบท์แดนซ์อย่างติ๊กต่อก ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมของนักโฆษณาในจีนและเอเชีย จนทำให้มีฐานผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
น่าสังเกตุว่า การขยายฐานลูกค้าเข้าไปในพื้นที่ชนบทที่ห่างไกลความเจริญของอาลีบาบาช่วยให้บริษัทสามารถเอาชนะอุปสรรคสำคัญคือ ภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนได้อย่างประสบความสำเร็จ รวมทั้งผลพวงจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ดำเนินมาอย่างยืดเยื้อยาวนานและไม่มีทีท่าว่าจะจบลงเมื่อใด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-'อาลีบาบา'เตรียมจดทะเบียนตลาดหุ้นฮ่องกง
-อาลีบาบา ชู “กิจการเพื่อสังคม” หัวใจสำคัญของธุรกิจ
-อาลีบาบาเร่งสปีด 'คลาวด์-อีคอมเมิร์ซ'
-อาลีบาบาผนึกดับบลิวเอชเอ ร่วมทุนอีคอมเมิร์ชปาร์ค