ผู้การฯ นครบาล2 โชว์รวบ 'เสือ ดุสิต ริมเถื่อน' พร้อมพวก ปล้นบ่อนบางเขน
ผู้การฯ นครบาล2 แถลงข่าวโชว์รวบ “เสือ ริมเถื่อน” พร้อมพวก รวม 4 คน หลังก่อเหตุใช้ปืนบีบีกันฯ ปล้นบ่อนย่านบางเขน ระบุดำเนินคดี 2 ส่วน ทั้งปล้นทรัพย์ และลักลอบเปิดบ่อน
จากกรณีคนร้าย จำนวน 4 คน พร้อมอาวุธปืน ได้บุกเข้าปล้นบ่อนการพนัน ย่านบางเขน ภายในซอยพหลโยธิน 50 แยก 1 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. บริเวณด้านหลังบิ๊กซี สาขาสะพานใหม่ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล2 (กก.สส.บก.น.2) และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน ได้ร่วมกันควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ร่วม 4 คน ประกอบด้วย 1.นายสัมฤทธิ์ หรือ (เสือ ดุสิต) ริมเถื่อน อายุ 33 ปี , 2.นายวัชระ หรือโจ๊ก มากจงดี อายุ 22 ปี , 3. นายอนนต์เศรษฐ์ หรือตั้ม อวยพร อายุ 20 ปี , 4. นายสัมภาษณ์ หรือโอ๋ โสภี อายุ 27 ปี ทั้งหมดไม่มีอาชีพ และเป็นบุคคลที่ปรากฏในภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะกำลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนปล้นทรัพย์ภายในบ่อนดังกล่าว ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ ภายหลังการลงมือก่อเหตุ นายเสือ และนายโจ๊ก ได้อ้างว่า เล่นพนันจนเสียเงินไปกว่า 20,000 บาทเศษ ภายหลังมีคนที่อยู่ในบ่อน เข้ามาสะกิดบอกให้นายเสือ เลิกเล่น เพราะคนเขย่าลูกเต๋าของบ่อนแห่งนี้ สามารถบังคับลูกเต๋าได้ และเมื่อนายเสือ ทราบเรื่องว่าถูกโกงจึงเกิดบันดาลโทสะ โวยวายขึ้นกลางบ่อน จากนั้นเมื่อเห็นว่าคนคุมบ่อนจะกรูเข้าทำร้าย จึงชักอาวุธปืนบีบีกันที่พกติดตัวมา ข่มขู่พนักงานภายในบ่อนให้ส่งเงินที่เสียไปคืนมา โดยหลังเกิดเหตุทางบ่อน ได้มีการพูดคุยตกลงกันกับนายเสือ ว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด ส่วนเรื่องจำนวนเงินที่นายเสือ ได้เสียจากการพนันนั้น ทางบ่อนได้คืนให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 26 ส.ค.2562 พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 , พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน , พ.ต.ท.ธนาพันธ์ ผดุงการ รองผกก.(สอบสวน) สน.บางเขน , พ.ต.ท.อนันต์ วรสาตร์ รอง ผกก.สส.ฯ , พ.ต.ท.นิรุชพล โยธามาตย์ รอง ผกก.ป.ฯ , พ.ต.ท.สมศักดิ์ ไตรนาจา สว.สส.ฯ , พ.ต.ต.ศรายุทธ ปัญญาศรีวิชัย สว.สส.ฯ ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุม 1.นายสัมฤทธิ์ หรือเสือ ริมเถื่อน อายุ 33 ปี , 2.นายวัชระ หรือโจ๊ก มากจงดี อายุ 22 ปี , 3.นายอนนต์เศรษฐ์ หรือตั้ม อวยพร อายุ 20 ปี , 4.นายสัมภาษณ์ หรือโอ๋ โสภี อายุ 27 ปี พร้อมของกลาง 1.สิ่งเทียมอาวุธปืน(ปืนบีบีกัน) ชนิดออโตเมติก สีดำ จำนวน 2 กระบอก
พล.ต.ต.เอกชัย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 ส.ค.2562 น.ส ปัญภรณ์ อินทรจันทร์ และ นายมานิตย์ ใช้ประทุม ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน พร้อมกับให้การว่า เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม เวลาประมาณ 21.00 น. ต่อเนื่องไปจนถึงเวลาที่เกิดเหตุ ทั้งสองคนได้จัดให้มีการเล่นการพนันไฮโล พนันเอาทรัพย์สินกันจริง โดยสถานที่จัดให้เล่นอยู่ที่อาคารไม่มีเลขที่ในซอยพหลโยธิน 50 แยก 1 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ และในการเล่นครั้งนี้ นางสาวปัญภรณ์ฯ รับเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ และนายมานิตย์ฯ เป็นเจ้าของสถานที่จัดให้มีการเล่นการพนันไฮโล
ซึ่งขณะที่เกิดเหตุ เป็นวันเดียวกัน 24 ส.ค. เวลาประมาณ 03.00 น. ได้มีชาย 2 คน ทราบชื่อภายหลังคือ นายสัมฤทธิ์ หรือเสือ ริมเถื่อน และ นายวัชระ มากจงดี ทั้งสองคนได้ใช้อาวุธปืนข่มขู่ นายมานิตย์ฯ และนางสาวปัญภรณ์ฯ ภายในวงการพนัน โดยมีชายอีก 2 คน ทราบชื่อภายหลังคือ นายอนนต์เศรษฐ์ อวยพร และนายสัมภาษณ์ โสภี ยืนคุมเชิงและร่วมกันก่อเหตุกับ นายสัมฤทธิ์ฯ โดยทั้งหมดได้หยิบเอาเงินไปจากวงการพนัน จำนวนรวม 12,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายสัมฤทธิ์ฯ กับพวกรวม 4 คน ได้เข้ามาร่วมเล่นการพนัน และได้เล่นเสียไปจำนวนมาก และเข้าใจผิดว่า นายมานิตย์ฯ และนางสาวปัญภรณ์ฯ เล่นโกง จึงได้ชักอาวุธปืนออกมาข่มขู่ และเอาเงินกลับคืนไป โดยขณะเกิดเหตุไม่ทราบว่าอาวุธปืนที่ใช้เป็นปืนชนิดใด ซึ่งหลังก่อเหตุได้พูดคุยตกลงกันได้ โดยนายมานิตย์ฯ ได้สอบถามนายสัมฤทธิ์ฯ ว่าเสียเงินไปจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งนายสัมฤทธิ์ฯ ตอบกลับมาว่า เสียไปประมาณ 15,500 บาท นายมานิตย์ฯ จึงได้มอบเงินจำนวน 3,500 บาทให้นายสัมฤทธิ์ฯ และได้แยกย้ายกันไป แต่เมื่อปรากฏเป็นเหตุตามข่าวที่เผยแพร่ จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.บางเขน เพื่อดำเนินคดีกับนายสัมฤทธิ์ หรือเสือ ริมเถื่อน พร้อมพวกรวม 4 คน ในข้อหาปล้นทรัพย์ โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 ได้ ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันกระทำความผิดจริง เนื่องจากเข้าใจว่า ตนเองถูกโกงจากการเล่นการพนัน จึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
พล.ต ตเอกชัย เปิดเผยอีกว่า คดีนี้จะแยกดำเนินเป็น 2 คดี คือคดีร่วมกันปล้นทรัพย์ และคดีลักลอบเปิดบ่อนการพนัน ซึ่งนอกจากจะดำเนินคดีกับผู้ดูแลบ่อนพนัน และเจ้าของสถานที่แล้ว ก็จะขยายผลไปยังผู้ที่บงการเปิดบ่อนพนันต่อไปด้วย ส่วนเรื่องที่ตำรวจในพื้นที่เข้าข่ายปล่อยปละละเลยให้มีการลักลอบเปิดบ่อนพนันหรือไม่ ได้สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงไปแล้ว ต้องรอผลการสอบสวนพิจารณาก่อนว่า เป็นความบกพร่องหรือไม่ จึงจะพิจารณาดำเนินการต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปที่ห้องควบคุมทันที
ทั้งนี้ นายเสือ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ในวันนั้นไม่ได้ตั้งใจไปปล้นบ่อนพนัน ไม่มีนาย หรือมีใบสั่งจากใคร ทราบว่า มีบ่อนพนันเปิดที่ซอยพหลโยธิน 50 แยก 1 ก็เลยไปเล่น แต่เห็นพิรุธว่าเล่นเท่าไรก็ไม่ได้เงิน จึงรู้สึกโกรธ และเชื่อว่าถูกโกงพนัน จึงพาพวกมาเอาเงินคืนจากบ่อนพนัน ยืนยันว่าเงินที่ตนได้จากโต๊ะพนัน ก็แค่หมื่นกว่าบาท ไม่ได้เป็นหลักแสนตามที่มีการนำเสนอข่าวออกไป ซึ่งส่วนตัวยอมรับว่า รู้จักกับเจ้าของบ่อน และอยากบอกสังคมว่า ถ้าทราบว่าบ่อนพนันมีการโกง ก็ไม่ควรไปเล่น ส่วนตัวเองก็จะเล่นพนันแบบนี้เป็นครั้งสุดท้าย และหลังจากพ้นโทษก็ตั้งใจจะทำมาหากินอย่างสุจริตต่อไป โดยจะไม่หันกลับไปยุ่งเกี่ยวกับการพนันอีก