รัฐบาล ‘โมดี’ ส้มหล่น 2.4 หมื่นล้านดอลล์
แบงก์ชาติอินเดียหนุนนายกฯโมดี มอบ 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ให้รัฐบาลที่กำลังต้องการเงินมากระตุ้นเศรษฐกิจ แต่หลายฝ่ายเคลือบแคลงเรื่องความเป็นกลาง หวั่นรัฐบาลแทรกแซง
ธนาคารกลางอินเดีย (อาร์บีไอ) แถลงวานนี้ (27 ส.ค.) เห็นชอบโอนเงิน 1.76 ล้านล้านรูปี (2.44 หมื่นล้านดอลลาร์) เข้าคลังรัฐบาล ประกอบด้วยเงินปันผล 1.23 ล้านล้านรูปี และเงินสำรองส่วนเกิน 5.26 แสนล้านรูปี ผลพวงจากการนำวิธีประเมินความเสี่ยงตลาดแบบใหม่มาใช้
ก่อนหน้านั้นไม่กี่วันนางนิรมาลา สิธารมัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศชุดมาตรการหนุนเศรษฐกิจ เช่น เสริมสภาพคล่อง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับธนาคารที่มีเงินปล่อยกู้ไม่เพียงพอ และลดภาษีที่เก็บจากการขายหุ้นจนนักลงทุนต่างชาติหวาดหวั่น
ขณะนี้นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี กำลังถูกกดดันอย่างหนักให้กระตุ้นเศรษฐกิจอินเดีย ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเอเชีย แต่ชะลอตัวในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ตกอันดับประเทศเศรษฐกิจโตเร็วที่สุดในโลก เมื่อการว่างงานพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 70
โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์ได้รับผลกระทบหนักมาก ยอดขายรถยนต์เดือน ก.ค.ร่วงลงเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน ขณะเดียวกันการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคที่อ่อนแรงและภาษีสูงกระทบต่อความต้องการซื้อสินค้าทุกชนิดนับตั้งแต่ขนมปังกรอบไปจนถึงน้ำมันใส่ผม
นายสุจัน หัจรา นักเศรษฐศาสตร์จากอนันท์รตี ซีเคียวริตีส์ กล่าวว่า ถ้อยแถลงล่าสุดจากอาร์บีไอถือเป็นความเคลื่อนไหวที่ดีต่อเศรษฐกิจและการเงินสาธารณะ แม้โอนเงินก้อนนี้ให้รัฐบาล อินเดียก็ยังมีธนาคารกลางที่ระดมทุนได้ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ท่าทีดังกล่าวไม่ได้สะท้อนถึงการไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลหรือธนาคารกลางแต่อย่างใด
สอดคล้องกับนายอสุทส ดาตาร์ นักเศรษฐศาสตร์อิสระจากมุมไบ ที่กล่าวว่า จำนวนเงินดูเหมือนมากแต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ และไม่ได้เป็นการปล้นเงินสำรองของอาร์บีไอ
อย่างไรก็ตาม ท่าทีของอาร์บีไอทำให้ถูกตั้งคำถามถึงความเป็นกลาง หลังจากปีนี้ลดอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 ปี มีรายงานว่าทำไปเพราะถูกรัฐบาลกดดัน
เดือน ธ.ค.2561 นายอูร์จิต พาเทล ผู้ว่าการอาร์บีไอขัดแย้งกับรัฐบาลโมดีจนต้องลาออก โดยกล่าวหาว่ารัฐบาลพยายามแทรกแซงอาร์บีไอ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-'ดอน' แจงค้านฟรีวีซ่าจีน-อินเดีย
-'กระทรวงท่องเที่ยว' ชงครม.เว้นวีซ่าจีน-อินเดีย ฟื้นเที่ยวไทย
-อินเดียฝันเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าโลก
-ค้าปลีกอินเดียสมรภูมิใหม่ 'เซเว่น อีเลฟเว่น'