“แบงก์ ออฟ อเมริกา”ชี้ทวิตเตอร์“ทรัมป์”ฉุดหุ้นตก
แบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ ออกรายงานระบุว่า วันใดก็ตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขยันทวีตข้อความในทวิตเตอร์ วันนั้นตลาดหุ้นจะมีผลตอบแทนเป็นลบ
รายงานระบุว่า “นับตั้งแต่ปี 2559 วันใดก็ตามที่ปธน.ทรัมป์ทวีตมากกว่า 35 ข้อความ (90 เปอร์เซ็นต์ไทล์) ตลาดหุ้นจะมีผลตอบแทนเป็นลบ แต่ในวันที่ปธน.ทรัมป์ทวีตน้อยกว่า 5 ข้อความ (10 เปอร์เซ็นต์ไทล์) ผลตอบแทนจะเป็นบวก ซึ่งค่าทางสถิติถือว่ามีนัยสำคัญ”
“การเจรจาทางการค้า การรณรงค์ทางการเมือง และการทวีตของปธน.ทรัมป์ นับตั้งแต่เรื่องของจีน, นโยบายเฟด และนโยบายภาษี ได้ส่งผลให้ตลาดเกิดความผันผวน โดยการที่ปธน.ทรัมป์ประกาศเก็บภาษีครั้งใหม่ในเดือนที่แล้วได้สร้างความเสี่ยงต่อการคาดการณ์กำไรต่อหุ้นของเราในปีนี้ที่ระดับ +2%/+7% และส่งผลกระทบทางอ้อมอย่างมีนัยสำคัญต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและผู้บริโภค” รายงานระบุ
อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าการทวีตของปธน.ทรัมป์เกี่ยวกับการทำสงครามการค้ากับจีน หรือเกี่ยวกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น แต่ดัชนีดาวโจนส์ได้ทะยานขึ้น 42% นับตั้งแต่ที่ปธน.ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพ.ย.2559 และพุ่งขึ้น 31% นับตั้งแต่เขาเข้ารับตำแหน่งในเดือนม.ค.2560
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-ผวาสงครามการค้าสหรัฐ-จีนแรงขึ้นฉุดดาวโจนส์ทรุดกว่า600จุด
-นักเศรษฐศาสตร์คาดอีก 2 ปีเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย
-ตลาดหุ้นสหรัฐปิดไร้ทิศทาง
-'โกลด์แมน แซคส์'เตือนสงครามการค้าฉุดศก.สหรัฐถดถอย