ทส. ยังไม่ย้าย “ชัยวัฒน์” ระบุ ยังไม่ได้รับการประสานจากดีเอสไอ
กรมอุทยานฯ ย้ายเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่อยู่ร่วมเหตุการณ์การจับกุมตัว “บิลลี่” ก่อนหายตัว
โดยนายวิจารณ์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีอำนาจในการโยกย้ายข้าราชการกระทรวงระดับซี 9 ขึ้นไป กล่าวว่า ยังไม่ไ้ด้รับหนังสือประสานอะไรจากทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ จากกรณีที่มีกระแสข่าวสอบถามถึงการพิจารณาโยกย้ายนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งอยู่ร่วมเหตุการณ์นั้นเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชได้มีคำสั่งย้ายพนักงานราชการประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 ที่ปฏิบัติงานที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน 3 นาย ไปปฏิบัติราชการที่สำนักฯ อื่น ลงวันที่ 5 กันยานยน 2562 โดยทั้ง 3 นายเป็นเจ้าหน้าที่ที่อยู่ร่วมในเกตุการณ์จับกุม “บิลลี่” พอละจี รักจงเจริญในขณะที่ครอบครองน้ำผึ้งโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยอธิบดีกรมฯ นายธัญญา เนติธรรมกุล ให้สัมภาษณ์ช่อง3 เช้านี้ว่า เพื่อความสบายใจของทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง แต่ยังถือว่าทุกคนยังเป็นผู้บริสุทธิ์ เพราะดีเอสไอยังไม่ได้ชี้ชัดว่ามีใครเกี่ยวข้อง หรือผิดบ้าง
ทางด้านนายชัยวัฒน์ ได้ให้ฝ่ายกฏหมายลงบันทึกประจำวัน กรณีที่มีผู้แอบอ้างเป็นตำรวจข่มขู่ลูกน้องเก่าคนหนึ่งให้ปรักปรำตนเอง โดยนายวินัย บัวศรี หัวหน้ากลุ่มงานกฏหมาย สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 ซึ่งได้รับการมอบอำนาจจากนายชัยวัฒน์ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้
นายชัยวัฒน์ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีดังกล่าว มีผลกระทบต่อการปฏิบัติงานและขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ และเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยในชีวิต สิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคล และเป็นการให้ความคุ้มครองพยานบุคคล จึงได้มอบหมายให้นายวินัย นำเรื่องมาแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และเป็นหลักฐานประกอบการรายงานผู้บังคับบัญชาระดับสูง ในการขอความคุ้มครองพยานต่อไป
นายขัยวัฒน์ยังได้ทำหนังสือแจ้งให้ทางกรมฯทราบในการดำเนินการดังกล่าว
ด้านนายวินัย ให้สัมภาษณ์ว่า การเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานวันนี้ เพื่อรายงานให้อธิบดีต้นสังกัดทราบ แล้วขอความคุ้มครองให้กับเจ้าหน้าที่ที่ถูกกล่าวถึง หากกรมสอบสวนคดีพิเศษมีการขอตัวเจ้าหน้าที่ไปให้ปากคำ ต้องมีการขอผ่านทางกรมอุทยานฯ เพราะการคุกคามและให้สัญญากับเจ้าหน้าที่ดังกล่าว จะมีผลให้นายชัยวัฒน์ ได้รับความเดือดร้อน หากเจ้าหน้าที่ทำตามด้วยการปรักปรำดังกล่าว จึงมาขอแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานดังกล่าว
ด้าน พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับแจ้งไว้เป็นหลักฐาน และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น โดยไม่ได้มีการดำเนินคดีกับผู้ใด เพราะผู้แจ้งต้องการเพียงลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ยังไม่ประสงค์จะดำเนินคดีกับผู้ใดในขณะนี้