เร่งนำน้ำคืนป่าพรุ หลังพบน้ำแห้งมีส่วนให้ไฟกระพือ
กรมอุทยานฯ เร่งศึกษาการบริหารจัดการป่าพรุ
นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช กล่าวว่า การระบายน้ำออกจากป่าพรุเป็นปัญหาสำคัญ เพราะเมื่อน้ำลดลงมาก ยิ่งทำให้ป่าเกิดความแห้งแล้ง เมื่อเกิดไฟทำให้การควบคุมเป็นไปได้ยาก แต่ถ้าป่าพรุชุ่มน้ำ ไฟจะเกิดได้ยาก อธิบดีกล่าว
นายธัญญากล่าวว่า ขณะนี้มีมหาวิทยาลัยได้เร่งดำเนินการศึกษาวิจัยการบริหารจัดการป่าพรุและได้ส่งข้อมูลมาแล้ว กรมอุทยานฯ ได้ส่งต่อไปให้สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ สผ. ช่วยพิจารณา ซึ่งสผ.ได้มีข้อท้วงติงกลับมา ขณะนี้อยู่ในระหว่างการแก้ไขและจะได้ส่งกลับไปอีกครั้ง
นอกจากนี้สิ่งที่ต้องดำเนินการคือ การระดมทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมกันในการแก้ไขปัญหา ขณะเดียวกันกรมอุทยานฯ เองต้องเร่งการสร้างน้ำกลับมาในป่าพรุ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแพรกเพื่อรองรับน้ำ การขุดอ่างพวงในพื้นที่ป่าพรุ หรือการขุดสร้างแหล่งน้ำแบบกระจาย เมื่อเกิดไฟขึ้นก็จะสามารถคุมได้อย่างรวดเร็ว นายธัญญากล่าว
ส่วนคันคูนั้น นานธัญญายอมรับว่าเป็นการขุดเพื่อสร้างแนวเขตป่าพรุป้องกันการบุกรุก แต่ได้ทำแพรกคลองเพื่อให้น้ำไหลเข้าไปได้
ทั้งนี้ ไฟได้ไหม้ป่าพรุควนเคร็ง จังหวัดนครศรีธรรมราช มาตั้งแต่ปลายเดือนกรกฏาคม โดยไฟได้ไหม้พรุราว 20% ของพื้นที่
ด้านเจ้าหน้าที่ควบคุมไฟป่าในพื้นที่พรุควนเคร็ง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าในการลงพื้นที่ตลอดช่วงเกิดเหตุการณ์นั้น ได้ความค่อนช้างชัดเจนว่ามีการลอบเผาโดยกลุ่มบุคคล ซึ่งหนึ่งในนั้นคือกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ที่ถูกเจ้าหน้าที่เข้ายึดคืนจากการบุกรุกแผ้วถาง ซึ่งในการข่าวนั้นเจ้าหน้าที่รับทราบว่าเจตนาในการเผาคือการตอบโต้เจ้าหน้าที่ แต่ไม่มีพยานหลักฐานในการเอาผิดได้
ทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายวราวุธ ศิลปอาชา ได้ลงพื้นที่พร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมอุทยานฯและกรมป่าไม้เมื่อวานนี้เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และติดตามสถานการณ์ไฟป่า พร้อมทั้งมอบนโยบายและแนวทางในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่พรุควนเคร็ง
โดยนายวราวุธ ขอให้เจ้าหน้าที่ป้องกันและดูแลรักษาพื้นที่ที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ ร้อยละ 80 ให้คงอยู่ ส่วนที่ถูกไฟป่าไหม้ ร้อยละ 20 จะร่วมกับจิตอาสา เจ้าหน้าที่ของ ทส. และประชาชนในพื้นที่ช่วยกันฟื้นฟูพื้นที่โดยด่วน และจะไม่ปล่อยให้เป็นพื้นที่เสื่อมโทรมอย่างเด็ดขาด
ข้อมูลจาก สผ. ซึ่งดูแลพื้นที่ชุ่มน้ำของประเทศ ระบุว่า พรุควนเคร็ง มีพื้นที่ทั้งหมดมีประมาณ 86,942 ไร่ สภาพทั่วไปเป็นพื้นที่ซึ่งฟื้นสภาพจากพื้นที่พรุที่ถูกคุกคามด้วยไฟป่าและการบุกรุก ตั้งอยู่ในอำเภอเชียรใหญ่ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอชะอวด อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช และ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
ป่าพรุนี้อยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย มีกฎหมายในการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลาย แต่ยังมีพื้นที่บางส่วนถูกบุกรุกเปลี่ยนสภาพป่าเป็นพื้นที่เกษตรกรรม โดยเฉพาะการนำไปปลูกปาล์มน้ำมัน
พรรณไม้หลักที่ปกคลุมพื้นที่ยังคงเป็นเสม็ด เช่นเดียวกับป่าพรุผืนอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียง
ภาพ ไฟยังไหม้ป่าพรุในบางจุดในอำเภอชะอวด นครศรีฯ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา/ อส.