วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (2 ต.ค.62)

- ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ (U.S. Manufacturing Activity) ในเดือนก.ย. 62 ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี ที่ระดับ 47.8 จากการส่งออกของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงจากสงครามการค้าของสหรัฐฯ และจีน

+ การผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปค ปรับลดลง 750,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนก.ย. 62 ลงไปแตะระดับ 28.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา นอกจากนี้การผลิตน้ำมันดิบของรัสเซียและสหรัฐฯ ได้ปรับตัวลดลงไปแตะระดับ 11.24 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก.ย. 62 และ 11.81 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก.ค. 62 ตามลำดับ

+ สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) เผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าปรับลด 5.9 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่ม 1.6 ล้านบาร์เรล โดยตัวเลขอย่างเป็นทางการของสถาบันสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) จะประกาศในวันนี้

- เอกวาดอร์ ประกาศที่จะถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่มโอเปกตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563 นี้ หลังประสบปัญหาทางด้านการเงินภายในประเทศอย่างต่อเนื่องและไม่ต้องการที่จะลดกำลังผลิตน้ำมันดิบตามข้อตกลงของกลุ่มโอเปคและผู้ผลิตนอกกลุ่ม

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้ในภูมิภาคยังอยู่ในระดับดี ประกอบกับมีการซ่อมบำรุงโรงกลั่นฯ ในประเทศอินเดีย

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดในภูมิภาคยังคงตึงตัว หลังจีนส่งออกน้ำมันดีเซลลดลง รวมทั้งมีความต้องการน้ำมันดีเซลสำหรับใช้ในฤดูหนาวมากขึ้นจากประเทศในยุโรป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-ผู้เชี่ยวชาญคาดผลผลิตน้ำมันดิบตึงตัวหนุนราคาทะลุ100ดอลล์

-ถล่มโรงกลั่นน้ำมันซาอุฯหนุนราคาน้ำมันดิบพุ่งกว่า15%

-กูรูคาดราคาน้ำมันดิบทะยานกว่า10ดอลล์

-ราคาน้ำมันลงหลังนักลงทุนคลายวิตกขัดแย้งอิหร่าน